หมออำนาจ อดีตนายกแพทยสภา ชี้ความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรด่านหน้า เป็นวัคซีนเข็มที่ 3
วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อำนาจ กุสลานันท์ กรรมการแพทยสภา และ อดีตนายกแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีมีกระแสข่าวว่า ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส โดยระบุว่า แพทย์และบุคลากรด่านหน้า จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์อย่างเร่งด่วน ข้อความทั้งหมดมีดังนี้
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
- “ไชน่าทาวน์ห้วยขวาง” คลายมนต์ขลัง ร้านอาหารหมาล่าแห่ปิดกิจการ
- ธ.ก.ส. โอนเงิน “ไร่ละพัน” รอบที่ 8 เข้าบัญชีชาวนาอีกกว่า 1.5 หมื่นครัวเรือน
เรียน นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ตามที่ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส ในเดือน ก.ค.-ส.ค. 64 มานั้น ผมทราบมาว่ามติที่ประชุมของคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 ได้มีผู้เสนอให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ได้วัคซีนซิโนแวคสองเข็มไปแล้วระยะหนึ่งได้รับวัคซีนนี้ แต่ต่อมาที่ประชุมมีมติไม่ให้วัคซีนดังกล่าวแก่บุคลากรทางการแพทย์
ผมมีความเห็นว่าแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่จะได้รับเชื้อ รวมทั้งเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญสูงมากในขณะนี้ที่มีภาระหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยทั้งหมด ถ้าหากกำลังคนที่สำคัญในภาวะวิกฤตนี้ติดเชื้อจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะการที่คนใดคนหนึ่งในกลุ่มบุคลากรที่กำลังทำหน้าที่เพื่อชดเชยอัตรากำลังคนที่ขาดแคลนอย่างที่สุดในตอนนี้ติดเชื้อ จะทำให้มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องถูกกักตัวเนื่องจากเป็นผู้ความเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก ดังที่ได้มีการประกาศปิดห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องคลอด หรือทั้งโรงพยาบาลมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ผู้ป่วยและประชาชนมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกทั้งจากโควิดและภาวะฉุกเฉินอื่น ๆ
ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อในบุคลกรกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญสูงสุดและจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประคองให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวแก่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยด้วยครับ (ลงชื่อ) ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อำนาจ กุสลานันท์ กรรมการแพทยสภา อดีตนายกแพทยสภา