
กมล กมลตระกูล โพสต์ถึงเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ชี้ชัดการบริหารงบประมาณอย่างล้มเหลวของรัฐบาล
วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีการจัดสรรและใช้งบประมาณของรัฐบาลเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉิน อย่างในกรณีการแก้ไขปัญหา โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นวานนี้ (5 ก.ค.)
- เช็กผลเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม ส.ก. ใครชนะ เรียลไทม์
- สรุปคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 100% ที่ 2 สุชัชวีร์ เฉือน วิโรจน์ 785 คะแนน
- ดร.เอ้ สุชัชวีร์ เปิดตัวภรรยา คนที่ 2 ลมใต้ปีกในสนามผู้ว่าฯ กทม.
- โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ “หมิงตี้เคมีคอล” ต้นตอโศกนาฏกรรมสมุทรปราการ
- เปิดข้อมูลโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ รายได้ 1,200 ล้าน ผู้ถือหุ้นจดทะเบียนเกาะเวอร์จิ้น
โดยข้อความระบุว่า “ไฟใหม่ใหญ่ซอยกิ่งแก้ว 21 (เขตราชาเทวะที่มีการสร้างเสากินรีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย) สะท้อนการใช้งบประมาณอย่างเหลวแหลก!
ไฟใหม้โรงงานโฟมที่ซอยกิ่งแก้ว 21 มีความรุนแรง เพราะมีสารเคมีอันตรายต่อชีวิตหลายประเภท แต่กองทัพที่มีทรัพยากรและเครื่องมือมากที่สุดกลับไม่ได้ถูกระดมสรรพกำลังมาช่วยแก้ปัญหาร้ายแรงครั้งนี้
ภาพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เสี่ยงชีวิตทำงานอย่างกล้าหาญ (Hero ตัวจริงเสียงจริง) สะท้อนถึงการไม่ได้ใช้งบประมาณในเรื่องที่สำคัญทำให้ขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ขาดเครื่องไม้เครื่องมือ ต้องใช้อาสากู้ภัยมาช่วยแทนที่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำที่เป็นมืออาชีพ งบฯท้องถิ่นถูกนำไปใช้ในด้านเสากินรีอย่างน่าเศร้า
งบประมาณทางทหารถูกตั้งขึ้นมาจำนวนสูงมหาศาลทุกปี ในภาวะที่ไร้ศัตรูคุกคาม จึงเท่ากับซื้อเศษเหล็กมาโยนทิ้ง เพราะซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ แทนที่จะจัดสรรแบ่งมาจัดหาอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัยเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มีมากพอและพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงระบบราชการที่ล้มเหลวของหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลและตรวจตรา ตรวจสอบด้านความปลอดภัยของโรงงานว่ามีมาตรการทำตามระเบียบของกรมโรงงานฯและตามระเบียบของด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นประจำหรือไม่
ถึงเวลาหรือยังที่ต้องออกกฎหมายให้ย้ายโรงงานสารเคมีและโรงงานที่อาจจะก่ออันตรายต่อชุมชนออกไปจากชุมชนทั้งหมดทั่วประเทศไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันเสียที คือ กฎหมาย Zoning ที่แยกโรงงานและธุรกิจบางประเภทออกจากเขตที่อยู่อาศัยและเขตเกษตรกรรมและการประมง
เรื่องแบบนี้ในประเทศที่พัฒนาแล้วล้วนทำกันทั้งสิ้น แต่ผู้นำ นักการเมือง และสมาชิกรัฐสภาที่นอกจากกินเงินเดือนและค่าตอบแทนสารพัดอันสูงลิ่ว มีงบฯเดินทางไปดูงานประเทศที่เจริญแล้วทุกปีเป็นว่าเล่น แต่มัวมะงุมมะงาหราทำอะไรกันอยู่ ครับ
เวลามีม็อบ กลับสามารถระดมทหารตำรวจมาเป็นพันคนทันที มีเบี้ยเลี้ยงจ่าย มีรถฉีดน้ำควบคุมฝูงชนที่มีประสิทธิภาพฉีดน้ำแรงดันสูง แต่สิ่งเหล่านี้เราไม่ได้เห็นในสถานการณ์คอขาดบาดตายของไฟไหม้โรงงานที่มีสารเคมีอันตรายต่อชีวิตประชาชนในครั้งนี้
มันน่าเศร้านะครับ ประเทศไทย !