เข้มเดินทางอากาศ 21.00-04.00 น. จำกัดเที่ยวบินทุกไฟล์ท เริ่ม 12 ก.ค. 64

การบิน สนามบิน
FILE PHOTO : MIKE CLARKE / AFP

“การบินพลเรือน” ออกประกาศตามมาตรการ ศบค. คุมเข้มจำกัดเที่ยวบินช่วง 21.00-04.00 น. มีผล 12 ก.ค.นี้ พร้อมสั่งให้มีมาตรการเว้นที่-เอกสารทีาต้องใช้เดินทางต้องครบ- พบผู้เสี่ยงสูงหรือติดเชื้อให้แจ้งงดทำการบินทันที

วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศเรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 2) ลงนามโดยนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ CAAT ความว่า

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศบค.) ได้ประกาศมติการประชุม เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 โดยมีข้อปฏิบัติเรื่องจำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมในระบบขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็นนั้น

เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่สอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว CAAT จึงออกประกาศกำหนดแนวปฏิบัติ ดังนี้
1.ให้ยกเลิกประกาศเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2564 และให้ใช้ประกาศฉบับนี้แทน

จำกัดเที่ยวบิน 21.00-04.00

2.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศจำกัดการปฏิบัติการบินในระหว่างช่วงเวลา 21.00-04.00 น. เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้โดยสารในการเดินทางระหว่างสนามบินและที่พัก และสอดคล้องกับบริการขนส่งสาธารณะประเภทอื่นที่ดำเนินการตามข้อกำหนดและข้อปฏิบัติเดียวกัน

3.ในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบินและการรวมเที่ยวบิน ให้มีการแจ้งและดูแลผู้โดยสารอย่างเหมาะสมตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางบินประจำภายในประเทศ 2553

เอกสารมาตรการป้องกันโรคต้องครบ

4.ก่อนออกบัตรโดยสาร ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด หากตรวจสอบแล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน อาจพิจารณาระงับการออกบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสารนั้น

ต้องเว้นระยะห่าง

5.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศพิจารณาการจัดที่นั่งในเครื่องบินอย่างเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน โดยคำนึงถึงมาตรการเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัด อันจะมีส่วนช่วยในการป้องกันควบคุมโรค

6.ให้ผู้ประกอบการสนามบินติดตามดูแลให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ ในเขตพื้นที่สนามบิน
ปฏิบัติตามมาตรการของศบค.โดยเคร่งครัด

7.ให้ผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามดูแล
ให้ประชาชนผู้มาใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดที่ประกาศเมื่อน วันที่ 16 เมษายน 2564

พบติดเชื้อ-เสี่ยงสูงให้งดเดินทางทันที

8.ให้ผู้ประกอบการสนามบินและผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยยืนยัน
หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้งดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุดไป
หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม