ในประเทศ

ศาลให้ประกันเสี่ยโรงงานปั๊มเข็มที่ระลึกปลอม ตีราคา 2 แสน

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. คุมตัวนายพลังวัชร ธนกิตติ์ชยฉัตร หรือเฮียแก้ว เจ้าของโรงงานผลิตเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพปลอมย่านลาดพร้าว ผู้ต้องหาทำปลอมขึ้นซึ่งรอยตราหรือพระปรมาภิไธย ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวจะหลบหนี

ทั้งนี้ ก่อนคุมตัวไปฝากขัง เวลา 08.00 น. ภรรยาและญาติของนายพลังวัชรได้เดินทางเข้าเยี่ยมและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัว โดยจะยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ตีราคาไว้กว่า 5 แสนบาท เพื่อขอประกันตัวต่อศาล จากนั้นตำรวจมาเบิกตัวออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาไปสอบปากเพิ่มเติมและพิมพ์ลายนิ้วมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ตำรวจ ปคบ. ทหาร และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค เข้าตรวจค้นจับกุมร้านจำหน่ายเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพปลอมบริเวณริมถนนมหาราช ปากซอยนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ยึดเข็มที่ระลึกปลอม 100 เหรียญ และของกลางอื่นๆ พร้อมทั้งจับกุมนางทัศนีย์ หอจรัสกุล อายุ 65 ปี ผู้จำหน่ายสินค้าปลอม พร้อมขยายผลเข้าตรวจค้นโรงงานชยธรรมซึ่งเป็นโรงงานผลิต ภายในซอยลาดพร้าว 71 ซอยนาคนิวาส 2 มีคนงานกว่า 10 คนเร่งผลิตเข็มดังกล่าว และเข็มที่ผลิตเสร็จแล้ว จึงคุมตัวนายพลังวัชรมาดำเนินคดี ตาม ป.อาญา มาตรา 250 ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราแผ่นดิน รอยตราแผ่นดิน หรือพระปรมาภิไธย ต้องระวางโทษจำคุก 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้นำตัวนายพลังวัชรมาขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 พฤศจิกายน เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางและอื่นๆ โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาญาติของนายพลังวัชรยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด มูลค่า 2 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์