หมอเล่านาทีชีวิต ผ่าตัดเด็กติดโควิด รถพลิกคว่ำ ตับ-ม้ามแตก ขณะเดินทางไปกักตัว

นาทีชีวิต ผ่าตัดเด็กติดโควิด ตับ-ม้ามแตก
ภาพจากเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat

ผอ.รพ.สิชล เล่านาทีชีวิต ผ่าตัดเด็กติดโควิด  ตับ-ม้ามแตก เหตุรถพลิกคว่ำขณะเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.นครศรีธรรมราช หวังกักตัวรักษาโควิดทั้งครอบครัว

วันที่ 20 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ส.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล เล่าประสบการณ์นาทีผ่าตัดผู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำขณะเดินทางกลับมารักษาตัวทั้งครอบครัว ที่จ.นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า ปฏิบัติการกู้ชีพฉุกเฉินนาทีชีวิตผ่าตัดผู้ป่วยโควิด19อุบัติเหตุตับแตก ม้ามแตก

มีครอบครัวหนึ่งติดโควิดทั้งบ้าน 4 คน พ่อ แม่ ลูกอีกสองคน เดินทางจากกรุงเทพหวังมารักษาตัวที่บ้านเกิด นครศรีธรรมราช ระหว่างเข้าเขตอำเภอสิชล เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ทำให้พ่อ แม่ เสียชีวิตที่เกิดเหตุ ส่วนลูกทั้งสองบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยเข้าไปช่วยชีวิตเด็กทั้งสอง ที่ยังมีสติ เด็กจึงบอกกับทีมว่าเป็นโควิด การช่วยชีวิตจึงไม่ง่ายเลย ต้องใส่ชุดพีพีอีเข้าไปช่วยชีวิตด้วยความระมัดระวัง

รีบพาเด็กทั้งสองเข้า รพ. สิชล ทีมเตรียมพร้อมรับเต็มที่ เด็กคนโตอายุ 14 ปี เริ่มจะไม่รู้สึกตัว ชีพจร เบา เร็ว ความดันต่ำ รีบแทงน้ำเกลือ เปิดเส้น ให้สารน้ำ จองเลือด เจาะท้อง มีเลือดออกในท้อง สงสัยม้าม ตับ หรือลำไส้แตก เพราะแรงอัดอย่างรุนแรง แพทย์ตัดสินใจนำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเปิดช่องท้องหยุดเลือดออกในท้องโดยไม่รอช้า

นาทีนั้น คิดอย่างเดียวว่าเด็กต้องรอด ทีมรีบสวมชุดปฏิบัติการกู้ภัยโควิดครบทีมทั้งหมอดมยาสลบ หมอผ่าตัด พยาบาล เตรียมพร้อมรออยู่แล้ว รายนี้ไม่ต้องรอเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพราจะไม่ทันการ เด็กเสียเลือดมากโอกาสตายสูง เข้าห้องผ่าตัดเข็นในแคปซูลป้องกันโควิด เมื่อทีมพร้อมเริ่มดมยาสลบ ผ่าตัดทันที

เปิดเข้าไป มีเลือดในท้องกว่า1,500cc ตับแตก เย็บซ่อมพอไหว ม้ามแตกตัดม้ามทิ้ง ลำไส้บางส่วนช้ำแต่ไม่ทะลุ เลือดออกเยื่อบุช่องท้อง ใช้เวลาผ่าตัด30นาที ออกมาพักฟื้นใส่ท่อช่วยหายใจห้องไอซียูแรงดันลบ จนบัดนี้มาผ่านมาแล้ว7วัน จะเริ่มถอดท่อช่วยหายใจ พ้นขีดอันตรายแล้วแต่ทีมแพทย์ทั้งทีม ต้องกักตัว และตรวจโควิดเป็นระยะๆ รอลุ้นพรุ่งนี้ว่าทีมใครจะติดเชื้อจากปฏิบัติการครั้งนี้หรือไม่

ทั้งนี้ นพ.นพ.อารักษ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ถึงจะเสี่ยงอย่างไรแต่ไม่หวาดหวั่น รักษาชีวิตผู้ป่วยเป็นหน้าที่เหนือสิ่งอื่นใด