สธ. เล็งยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน สิ้นเดือน ก.ย. หันใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อแทน

กทม.

สธ.คาดใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้น ก.ย.นี้ ให้อำนาจอัตโนมัติ สั่งเคอร์ฟิว ปิดกิจการ/กิจกรรมได้

วันที่ 7 กันยายน 2564 มติชนรายงานว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ. …ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ขณะนี้ยังอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ยังไม่ได้กลับเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด

ทั้งนี้ รายละเอียดของกฎหมายเบื้องต้น จะมีการปรับกฎหมายในรูปแบบกระชับยิ่งขึ้น เพื่อใช้ในกรณีโรคติดต่อร้ายแรง หรือฉุกเฉิน และไม่กระทบสิทธิประชาชน เนื่องจากในปัจจุบันการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน นั้น อาจจะมีประชาชนบางคนเกิดความไม่สบายใจได้

ส่วนจุดอ่อนของ พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ ที่ยังไปไม่ถึงการประสานงานหน่วยงานอื่น ๆ จะแก้ไขใหม่ เพื่อปิดจุดอ่อนตรงนี้อย่างไร นายสาธิต ระบุว่า จะมีการแก้ไขให้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีอำนาจมากขึ้นในการกำกับนโยบาย

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.โรคคิดต่อฯ จะมีอำนาจมากขึ้นในการกำกับนโยบายให้ฝ่ายพื้นที่ได้ปฏิบัติ จากก่อนหน้านี้อาจมีปัญหาว่าแต่ละจังหวัดปฏิบัติไม่เหมือนกัน เช่น จังหวัดนั้น ทำอย่างนั้น จังหวัดนี้ ทำอย่างนี้ เป็นต้น

ดังนั้น พ.ร.บ. ดังกล่าวก็จะสามารถใช้อำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในระดับนโยบายไปทำเรื่องควบคุมโรคที่ตรงกัน ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนจะเข้า ครม. เมื่อไรนั้น ยังไม่ทราบ ต้องรอกฤษฎีกาต่อไป

นอกจากนี้ แหล่งข่าวใน สธ. กล่าวว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ฉบับแก้ไขนั้น จะให้อำนาจคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เหมือนกับอำนาจหน้าที่ของ ศบค. ในปัจจุบัน โดยในยามปกติ จะมีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แต่เมื่อไรที่ประเทศไทยมีการระบาดของโรคระบาด และนายกรัฐมนตรี มีการประกาศให้โรคนั้น เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือโรคติดต่อฉุกเฉิน

คณะกรรมการโรคติดต่อฯ จะถูกยกระดับแบบอัตโนมัติทันที ทำให้อำนาจในการสั่งควบคุมป้องกันโรค สั่งเคอร์ฟิว สั่งปิดกิจการต่าง ๆ ได้ โดยไม่ต้องอาศัยการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ต้องตั้งคณะทำงาน หรือคณะกรรมการที่คล้ายกับ ศบค.ขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการได้ และสามารถตั้งคณะทำงานต่าง ๆ เพิ่มเติมได้

“คาดว่าร่าง พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ฉบับใหม่นี้ น่าจะออกแล้วเสร็จ และบังคับใช้ภายในเดือนกันยายนนี้ เพราะว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีการประกาศล่าสุด จะมีอายุการใช้งานถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ และรัฐบาลไม่อยากจะประกาศต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก”