“อัจฉริยะ” โชว์ภาพถ่ายขบวนการรับจ้างติดคุก โยง “ครูจอมทรัพย์” ยันเป็น “แกะ” ตั้งแต่แรก

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายขบวนการรับจ้างติดคุกคดีครูจอมทรัพย์ หรือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ผู้ต้องหาคดีขับรถชนคนตาย ที่ศาลฎีกายกคำร้อง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มาแสดงต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าตนเป็นเพียงคนเดียวในประเทศไทย ที่สวนกระแสสังคมว่า นางจอมทรัพย์ เป็นแกะ เป็นผู้ต้องหาที่ขับรถชนคนตายจริง ไม่ใช่แพะ ทำให้ตนและครอบครัว ถูกกระแสสังคมโจมตีตลอดช่วง 10 เดือน ที่รอการพิสูจน์ความจริงในศาล

นายอัจฉริยะกล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางจอมทรัพย์ เพียงแต่เห็นเขามาออกรายการๆ หนึ่ง พบพฤติกรรมพูดโกหก และเห็นตัวละครตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็น นายสับ วาปี นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และคนอื่นๆ ที่ออกมาพูดเท็จ จึงได้เอาประวัตินายสุริยา มาเช็กและลงพื้นที่ พบว่ามีประวัติไม่ชอบมาพากล จึงรู้ว่านี่คือขบวนการรับจ้างติดคุก ขบวนการเหล่านี้ทำลายขบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง กระบวนการยุติธรรมที่ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ และศาล ยังมีความยุติธรรมอยู่ เพียงแต่ขบวนการเหล่านี้มุ่งทำลายกระบวนการยุติธรรม โดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้สนับสนุน ทุกคนทราบดีว่าคดีนี้ดราม่ามาจากสื่อช่องหนึ่งกลายเป็นกระแสสังคม จนกระทั่งมีหน่วยงานของรัฐที่ทราบกันว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับรองปลัด ออกมาสนับสนุนอย่างออกหน้าว่านางจอมทรัพย์เป็นแพะ แต่เมื่อศาลยกฟ้องกลับออกมาแถลงข่าวว่ารู้ตั้งแต่แรกว่านางจอมทรัพย์ สร้างพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่แรก

“คุณเป็นรองปลัด ทำไมไม่ออกมาหยุดตั้งแต่วันแรก ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้น กลับอ้างว่าพบหลักฐานใหม่ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีการที่เอารถทะเบียน บค56 สกลนคร มาตรวจสอบใหม่มีการสวมป้ายทะเบียนและเปลี่ยนชิ้นส่วน เพื่อความมุ่งหวังทางคดี สร้างพยานหลักฐานเท็จยื่นต่อศาลในการรื้อฟื้นคดี และก่อนจะให้ศาลรื้อคดี ทั้ง 3 หน่วยงาน คือ ตำรวจ อัยการ และศาล ก็ตรวจสอบแล้วไม่พบรอยเฉี่ยวชน วันนี้จึงเอาหลักฐานมาให้ดูชัดๆ ว่า ป้ายทะเบียนเมื่อ 12 ปีที่แล้วกับป้ายใหม่ รวมถึงตัวหนังสือไม่เหมือนกัน ถ้ารองปลัดไม่ออกมายืนยันแต่แรกว่านางจอมทรัพย์เป็นแพะ ทั้งๆ ที่รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นแกะ ถ้าวันนั้นรองปลัดแถลงต่อสื่อมวลชนหรือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่ามีขบวนการรับจ้างติดคุก วันนั้นท่านจะสง่างามมาก และจะเป็นฮีโร่ของคนทั้งประเทศ แต่หลังจากท่านทราบกลับปกปิด และบอกว่าพบพยานหลักฐานใหม่ ถามว่าวันนี้จะทำอยางไร ผมไม่กลัวจะถูกฟ้องกลับ ยินดีพิสูจน์ด้วยกระบวนการยุติธรรม เพราะผมถูกสังคมตัดสินไปแล้วก่อนหน้านั้น ผมเคยพูดมาโดยตลอดว่าถ้านางจอมทรัพย์ เป็นแพะ ผมพร้อมปิดชมรมฯ ยินดีให้ฟัองเข้าเรือนจำ ไม่ต่อสู้คดี ที่สำคัญจะจ่ายเงินให้นายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบูล ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล ที่ออกมาระบุว่านางจอมทรัพย์เป็นแพะ เป็นเงิน 1 ล้านบาทด้วย” นายอัจฉริยะกล่าว

นายอัจฉริยะกล่าวอีกว่า อยากจะถามว่า 1.ตรงนี้จะทำอย่างไร งบประมาณแผ่นดิน ค่าคุ้มครองพยานที่จ่ายไป ขอเรียกร้องขอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งกรรมการสอบ ว่ามีการนำเงินงบประมาณแผ่นดินไปใช้จำนวนเท่าไหร่ ค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ใช้จ่ายไปกี่แสน กี่ล้านบาท ให้แจ้งต่อสาธารณชนได้รับทราบ 2.ในการตรวจสอบขั้นตอนการรับเรื่องราวร้องทุกข์มีความละเอียดมากน้อยแค่ไหน ทำไมพยานทั้ง 2 ปาก คือนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 52 ปี และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ วัย 61 ปี ถึงออกมาระบุว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสร้างพยานเท็จมาให้เซ็น 3.ให้ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงคนอื่นๆ รู้เห็นหรือช่วยเหลือหรือไม่ ถามว่าวันนี้ตนกล่าวหาใครตรงไหน ที่ต้องร้องเรียน เพราะต้องการให้ตรวจสอบการทำงานทั้งระบบ เพื่อไม่ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเครื่องมือของขบวนการมิจฉาชีพที่ทำลายขบวนการยุติธรรม

 

ที่มา : มติชนออนไลน์