กรมเจ้าท่า นำเรือพระราชทานออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม “สุโขทัย-อยุธยา-ชัยภูมิ-โคราช”
วันที่ 27 กันยายน 2564 นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า การนำเรือพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วประเทศ เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กรมเจ้าท่าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่น้ำท่วม ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสานในขณะนี้
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
ซึ่งกรมเจ้าท่าได้นำเรือพระราชทานออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งการขนย้ายสิ่งของ อพยพผู้ประสบภัย และการแจกอาหารและนำดื่มในจังหวัดสุโขทัย จังหวัดอยุธยา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ
สำหรับเรือพระราชทานนี้ กรมเจ้าท่าได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 จำนวนทั้งสิ้น 28 ลำ ประกอบด้วย เรือพายไฟเบอร์กลาส เรืออลูมิเนียมท้องแบน และเรืออลูมิเนียมพร้อมเครื่องยนต์ 7 ลำ เรือพระราชทาน ทั้ง 3 ประเภท กินน้ำลึกเพียง 25 เซนติเมตร ส่งผลทำให้มีความคล่องตัวในการเข้าช่วยเหลือและอพยพประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ทั้งนี้ เรือพระราชทานได้เข้าประจำการ กรมเจ้าท่าตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2554 โดยกระจายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ พื้นที่ภาคกลาง ประจำการ จ.อยุธยา พื้นที่ภาคเหนือ ประจำการ จ.นครสวรรค์ และ จ.เชียงใหม่ พื้นที่ภาคอีสาน ประจำการ จ.ขอนแก่น พื้นที่ภาคตะวันออก ประจำการ จ.จันทบุรี และพื้นที่ภาคใต้ ประจำการ จ.ตรัง จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.สงขลา โดยมีสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1-8 เป็นผู้ใช้เรือพระราชทานในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้นำเรือพระราชทานออกช่วยเรือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับความพึงพอใจจากประชาน และสามารถขจัดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นอย่างดี
ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ สามารถขอรับความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนกรมเจ้าท่า 1199 หรือสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1-8 กรมเจ้าท่า ยินดีและพร้อมช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบต่อประชาชนอย่างเต็มที่