กองทัพบก ระดมยุทโธปกรณ์ทหารช่าง ช่วยน้ำท่วมทุกพื้นที่ประสบภัย

ภาพจากเฟซบุ๊ก Army Spoke Team

กองทัพบก ระดมยุทโธปกรณ์ทหารช่าง พร้อมกระจายส่งช่วยน้ำท่วมทุกพื้นที่ประสบภัย

วันที่ 30 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เตรียมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือเพิ่มเติมจากกองทัพบกส่วนกลางและกรมการทหารช่าง เพื่อส่งไปยังพื้นที่ตามที่หน่วยร้องขอให้ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชนนั้น

ล่าสุด กรมการทหารช่างได้นำยุทโธปกรณ์มาประกอบและตรวจสภาพความพร้อมในการใช้งาน เตรียมที่จะกระจายส่งไปสนับสนุนหน่วยทหารในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติเพื่อคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วม โดยเป็นยุทโธปกรณ์สายช่างและเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย ที่สำคัญได้แก่

ชุดสะพานเครื่องหนุนลอยแบบพับได้แบบ 79A (Ribbon Bridge) ซึ่งสามารถดัดแปลงนำไปวางเชื่อมต่อเส้นทาง หรือถนน สะพานที่ถูกตัดขาด ให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ชั่วคราว

สะพาน Modula Fast Bridge (MFB) ยาว 15 เมตร เป็นรถสะพานที่สามารถเคลื่อนที่นำไปวางเชื่อมเส้นทาง ถนนที่น้ำถูกตัดขาดได้ทันที เพื่อใช้ในการสัญจรชั่วคราว ซึ่งสะพานลักษณะนี้นอกจากมีอยู่ที่กรมการทหารช่างแล้ว กองทัพบกยังได้ส่งไปที่กองพันทหารช่างในจังหวัดต่างๆ สามารถเข้าช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วมได้ทันที ปัจจุบันสะพาน (MFB) ได้นำไปวางเชื่อมเส้นทางที่ ต.วังซ่าน อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และ ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา

เรือยนต์อลูมิเนียมพร้อมเครื่องยนต์ติดท้าย 55 แรงม้า ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่ มีความรวดเร็วในการเดินทางเข้าพื้นที่น้ำท่วมสูง ใช้ในการรับส่งผู้ป่วย ย่นระยะเวลาในการเดินทางและทนต่อความแรงของกระแสน้ำ

เรือยางติดเครื่องยนต์ สามารถบรรทุกคนได้ 15 คน และลงพื้นที่น้ำลึกได้

แพ Mobile Clinic แพลอยน้ำขนาดใหญ่ สามารถใช้เป็นจุดศูนย์กลางในการรักษาพยาบาล เป็นตำบลรวบรวมและกระจายสิ่งของบรรเทาทุกข์

เครื่องสูบน้ำหอยโข่งแบบลากจูง ขนาด 8 นิ้ว สามารถสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

รถประปาสนามเคลื่อนที่สามารถผลิตน้ำจากแหล่งน้ำในพื้นที่ เป็นน้ำประปาให้ประชาชน ใช้อุปโภคบริโภคในพื้นที่ประสบภัย

ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ จำเป็นต้องมียุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อสอดคล้องและรองรับการช่วยเหลือ ตลอดจนฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสภาพเดิมโดยเร็ว

การนำยุทโธปกรณ์ของหน่วยทหารช่างมาเสริมการดูแลผู้ประสบภัย เป็นการนำเอาเครื่องมือรวมถึงยุทโธปกรณ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามนโยบาย “ใช้ยุทโธปกรณ์ที่มีอย่างคุ้มค่า เพื่อประชาชน” โดยล่าสุด กรมการทหารช่างได้ส่งเครื่องยนต์ติดท้ายเรืออัลลูมิเนียม 55 แรงม้า ให้กองทัพภาคที่ 2 เสริมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และนครราชสีมา