ฝากขังผลัดแรก สับ วาปี ปลงพร้อมรับโทษ จูง มือเมีย เข้าฝากขัง เจอ 3 ข้อหาหนัก ส่วน ครูอ๋อง จอมบงการ ยังหนีกบดาน รวมถึงสามีครูจอมทรัพย์ กับพยาน ยังไม่มอบตัว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 พ.ต.ท.ณรงค์ วงศ์ธรรม ผกก.กลุ่มงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ คณะทำงานดำเนินคดีกับขบวนการรับจ้างทำผิดแทน ในคดีครูจอมทรัพย์ ได้นำตัว นายสับ วาปี อายุ 61 ปี พร้อมด้วยภรรยา นางจัน วาปี อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาในคดีรับจ้างทำผิดแทนครูจอมทรัพย์ ไปทำการฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม เป็นผลัดแรก เพื่อรอรวบรวมหลักฐาน ทำสำนวนส่งอัยการ ฟ้องศาลต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย จะสามารถฝากขังได้ผลัดละ 12 รวมทั้งหมด ไม่เกิน 7 ผลัด โดยยังไม่มีการขอยื่นประกันตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางตำรวจได้มีการแจ้งความดำเนินคดี จนกระทั่งเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา ฐานความผิด 3 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
นอกจากนี้ยังได้มีความผิดข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 วรรคสอง ผู้ใดนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี ถ้าเป็นพยานหลักฐานในข้อสำคัญในคดีนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญาผู้กระทำต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ส่วนอีกข้อหาสำคัญคือ ฐานซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยความผิดทั้ง 3 ข้อหา เชื่อมโยงมาจาก นายสับ วาปี อายุ 61 ปี พร้อมด้วยภรรยา คือ นางจัน วาปี อายุ 59 ปี เคยเป็นพยานไปให้การยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโดน และ สภ.เมืองนครพนม เพื่อยืนยันว่า นายสับ วาปี เป็นคนขับรถ ไม่ใช่ครูจอมทรัพย์ ถือเป็น 2 ผู้ต้องหา พยานคนสำคัญ จากทั้งหมด 8 ราย ที่ตำรวจดำเนินคดี ซึ่งทางเจ้าตัว ได้รับสารภาพกับทางตำรวจ ว่าได้รับจ้างจาก นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เป็นเงิน 4 แสนบาท แต่สุดท้ายถูกเบี้ยวไม่จ่ายค่าจ้าง และพร้อมที่จะน้อมรับกับความผิดที่เกิดขึ้นไม่ว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินออกมาในรูปแบบไหน ส่วนขบวนการรับจ้างทำผิดที่ยังมีการหลบหนี และไม่มารายงานตัวกับตำรวจ ยังมีเหลืออีกทั้งหมด อีก 3 คน จากทั้งหมด 8 คน ที่ถูกดำเนินคดี คนแรก คือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ออกหมายจับแล้วยังหลบหนี คนที่ 2 นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี พยานที่ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์ มีคนขับรถชนเป็นชาย คนที่ 3 คือ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี สามีครูจอมทรัพย์ ซึ่งเคยไปให้การช่วยเหลือครูจอมทรัพย์กับตำรวจ ทางตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดี อยู่ระหว่างออกหมายเรียก
ที่มา : มติชนออนไลน์
