เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ครอบครัวนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ที่โรงเรียนเตรียมทหาร ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้งถึงกรณีการเสียชีวิตของน้องเมย
โดยนายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ บิดาน้องเมย กล่าวว่า อยากขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้ความเป็นธรรมและช่วยเหลือที่ผ่านมา อยากให้ช่วยหาคนกระทำความผิดมาลงโทษ หรืออยากให้ล้างคำครหาว่า ลูกตนไม่ได้ป่วยหรือ โดนบังคับให้เรียน ตนไม่ได้อยากทะเลาะกับกองทัพหรือโรงเรียนเตรียมทหาร ตนต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยเหมือนที่ผ่านมา
ด้านน.ส.สุพิชชา พี่สาวของน้องเมย กล่าวว่า มีประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติม จากเอกสารการชันสูตรจากสถาบันพยาธิวิทยา รพ.พระมงกุฎ คือจากที่บอกว่ากระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 หัก ด้านขวา ต่อมาพบว่าชิ้นเนื้อทางกล้องจุลทรรศ์ พบว่าตับ มีการคั่งเลือดเล็กน้อย กับม้าม มีการคั่งเลือด จึงอยากได้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นที่อวัยวะภายในที่ห่างจากจุดที่ซีพีอาร์ มีการคั่งเลือดขึ้นมา โดยในวันที่เดินทางไปรับชิ้นส่วนอวัยวะ ไม่มีการพูดถึงเรื่องการคั่งเลือด
น.ส.สุพิชชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขอชื่นชมทีมแพทย์ จปร. ที่ได้ทำซีพีอาร์เป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อรอให้เราไปถึง ซึ่งมีการถามกับแพทย์อุบัติเหตุเพิ่มเติม และได้รับคำตอบว่าต่อให้มีการซีพีอาร์ 4 ชั่วโมง ก็ไม่สามารถทำให้เลือดคั่งที่ตับและม้ามได้ เพราะจุดค่อนข้างไกลกัน
น.ส.สุพิชชา กล่าวว่า ส่วนพยาธิหัวใจ ที่ทีมแพทย์ รพ.พระมงกุฎ ชี้แจงว่าพบเซลล์ในหัวใจน้องบางตัวที่โต ต่างจากเด็กในวัยเดียวกันนั้น แต่พบว่าอยู่ในระดับนิวเคลียส ยังไม่ขยายตัวไปถึงขั้นกว่าที่จะบอกได้ชัดเจน ถ้าน้องเมย เสียชีวิตจากภาวะหัวใจโตจริง บ้านเราสามารถยอมรับได้ ว่าเกิดจากตัวโรค แต่ถ้าน้องมีรอยช้ำประกอบกับหัวใจโต จะขอสืบหาความจริงต่อไปว่า ใครทำร้ายน้อง และเป็นเหตุต่อเนื่องทำให้น้องเกิดความผิดปกติที่หัวใจหรือไม่
“ต้องท้าวความไปก่อนว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ได้พาน้องไปรักษาที่ รพ.สมิติเวช ศรีราชา เพราะน้องบอกว่า ตกบันไดมา มีการเอ็กซเรย์ช่วงปอด ตรงรอยโรค ไม่มีอะไรระบุชัดเจน แต่หัวใจ มีการระบุว่าขนาดปกติ ไม่มีอะไรระบุว่าขนาดหัวใจโต เพราะหมอได้ติดตามดูอยู่ จึงสงสัยว่าคนหัวใจโตจะเป็นปุ๊ปปั๊ปภายใน 4 วันได้หรือไม่ กำลังติดตามดูอยู่”น.ส.สุพิชชา กล่าว
ทั้งนี้ มีแพทย์ได้โทร.มาให้คำปรึกษา และชี้ว่าซี่โครงตำแหน่งที่หัก และเลือดที่คั่ง ไม่สามารถเกิดจากการซีพีอาร์ได้ ทางบ้านไม่มีใครคิดจะให้ร้ายโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะน้องได้ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายในโรงเรียน ทั้งนี้ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และกระบวนการตามกฎหมายต่อไป