ในประเทศ

ศบค.เผยท็อป10 จว.ป่วยโควิดสูงสุด ปัตตานี พุ่งติดอันดับ 2 รองจากกทม.

ตรวจโควิด
เครดิตภาพ : สำนักอนามัย กทม.

ศบค. เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ภาคใต้ยังไม่ลด สัดส่วนยอดรวมยังยืนที่ระดับ 23% ของประเทศ ระบุท็อป 10 จังหวัด “ปัตตานี” รั้งอันดับ 2 รองจากกทม. ยอดพุ่งอีก 621 ราย ตามด้วยอีก 4 จังหวัด ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 1 จ่อแตะ 53% ของประชากร

วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศว่า ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 9,122 ราย หายป่วยแล้ว 1,651,555 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,774,071 ราย และ เสียชีวิตสะสม 18,313 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 พบหายป่วยแล้ว 1,678,981 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,802,934 ราย เสียชีวิตสะสม 18,313 ราย

ขณะที่ผู้ป่วยรักษาตัวมีอยู่จำนวน 105,546 ราย อยู่ในรพ. 39,922 ราย ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ อยู่ในรพ.สนามและอื่นๆจำนวน 65,624 ราย

ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 1 จ่อแตะ 53%

สำหรับผู้ขอรับการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 452,368 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 431,949 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 30,210 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 18 ตุลาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 66,592,321 โดส

และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 18 ตุลาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 66,592,321 โดส ดดยเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 38.13 ล้านราย คิดเป็น 52.9% เข็มที่ 2 จำนวน 26.4 ล้านโดส คิดเป็น 36.8% ของประชากร

ส่วนสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 241,876,777 ราย อาการรุนแรง 78,505 รายรักษาหายแล้ว 219,205,154 ราย เสียชีวิต 4,920,377 ราย

ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

  • 1. สหรัฐอเมริกา  จำนวน 45,902,575 ราย
  • 2. อินเดีย จำนวน 34,093,387 ราย
  • 3. บราซิล จำนวน 21,651,910 ราย
  • 4. สหราชอาณาจักร จำนวน 8,497,868 ราย
  • 5. รัสเซีย จำนวน 8,027,012 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก จากจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,802,934 ราย

10 จังหวัดท็อป10 “ปัตตานี” พุ่งพรวด

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด อันดับ 1 กทม. 1,037 ราย รวมยอดสะสม 388,912 ราย รองลงมาเป็น “ปัตตานี” ขึ้นมาอยู่อันดับสอง 621 ราย เพิ่มจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 502 ราย สงขลา 498 ราย ลดลงจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 579 ราย ยะลา 455 ราย ลดลงจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 756 ราย และนราธิวาส 453 ราย ลดลงจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 466 ราย โดย 5 จังหวัดของภาคใต้ยังติดอันดับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด

ส่วนจังหวัดอื่น ๆ มีชลบุรี 310 ราย สมุทรปราการ 299 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 238 ราย และระยอง 229 ราย (ตามตาราง)

ยอดติดเชื้อภาคใต้ 23% ของประเทศ

ส่วนจำนวนพื้นที่ผู้ติดเชื้อรายวันแยกตามพื้นที่พบว่า พื้นที่ต่างจังหวัด 67 จังหวัด มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,326 ราย คิดเป็น 59% ส่วนตัวเลขของกทม.และปริมณฑลมีจำนวน 1,646 ราย คิดเป็นสัดส่วน 18% โดยทั้งต่างจังหวัดและกทม.แนวโน้มยังคงลดลง

ขณะที่จังหวัดชายแดนใต้อยู่ที่ 2,027 ราย คิดเป็น 23% ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 2,303 ราย แต่เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนจะเท่ากับวานนี้คือ 23 % หรือทรงตัว

ภาคใต้เสียชีวิตมากสุด

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต 71 ราย ในวันนี้ เป็นชาย 44ราย หญิง 27 ราย อยู่ในกทม.10 ราย อยู่ในจังหวัดปริมณฑล 9 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 3 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ปทุมธานี 2 ราย นครปฐม 2 ราย

ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ มีจำนวน 21 ราย ได้แก่ ปัตตานี 5 ราย ภูเก็ต 3 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย ยะลา 2 ราย ชุมพร 2 ราย ระนอง 2 ราย สตูล 1 ราย นครศรีธรรมราช 1 ราย ตรัง 1 ราย นราธิวาส 1 ราย พังงา 1 ราย และจังหวัดในภาคตะวันออกรวม 16 ราย (ตามตารางท้ายข่าว)

โดยกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนของผู้เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 51 ราย คิดเป็น 72% อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรังจำนวน 9 ราย คิดเป็นสัดส่วน 13% รวมสองกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 85% และวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตนอกบ้าน

 

ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศและเกี่ยวข้องกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีจำนวน 2 ราย มาจากเบลเยียม 1 ราย ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ และมาจากสหรัฐอเมริกา 1 ราย ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการเช่นกัน ทั้ง 2 รายเข้าพักในรพ.เอกชนในภูเก็ต