กทม.เตรียมชง ศบค. เคาะแผนเปิดกรุงเทพมหานครตามแผน Bangkok Sandbox เผยคนกรุงฉีดวัคซีนเข็ม 1 ทะลุ 105% เข็ม 2 เกิน70% แล้ว คาดฉีดครบ 80% วันที่ 30 ต.ค.นี้
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม.ว่า กทม.เตรียมความพร้อมรับเปิดประเทศ ตามแนวทาง Bangkok Sandbox โดยจะรายงานผลให้ ศบค.รับทราบในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ หากได้รับการเห็นชอบจะถือเป็นแนวทางปฏิบัติของ กทม.ต่อไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
พล.ต.ท.โสภณกล่าวว่า วานนี้ (19 ต.ค.) กทม.พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,037 คน เป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาใน กทม. 812 คน และผู้ที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดแต่เข้ามารักษาที่กรุงเทพฯ 225 คน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน
ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนข้อมูล ณ วันที่ 18 ตุลาคม มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 8,132,826 คน คิดเป็นร้อยละ 105.63 วัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 5,437,553 คน คิดเป็นร้อยละ 70.63 คาดว่าจะให้บริการเข็ม 2 ครบร้อยละ 80 ในวันที่ 30 ตุลาคม 2564 นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจจำนวนผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อขอจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ประกอบด้วย สำนักการจราจรและขนส่ง สำรวจกลุ่มรถแท็กซี่และรถสามล้อ และสำนักเทศกิจและสำนักงานเขต สำรวจกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการและกลุ่มนักท่องเที่ยว และเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเปิดประเทศในอนาคต
ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมทั่วประเทศฉีดวัคซีนได้มากกว่า 65 ล้านโดสแล้ว ถือว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งเพราะฉีดให้เด็กด้วย จากที่ไม่มีแผนนี้ตั้งแต่แรก ขณะที่วัคซีนก็เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ คาดว่าจะฉีดได้มากกว่าเป้าที่วางไว้ว่าจะฉีดให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากร ซึ่งผู้บริหาร สธ.มองเป้าไว้ที่ร้อยละ 80
นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับปี 2565 คาดว่าจะมีวัคซีนของไทยเข้าสู่ระบบบริการด้วย เพราะหลายทีมผู้ผลิตมีความคืบหน้าไปมาก อาทิ ทีมขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) และทีมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ได้วางแผนฉีดแค่ 2 เข็ม แต่มองไปถึงเข็มบูสเตอร์โดสแล้ว ซึ่งนักวิชาการของไทยเก่งมาก สามารถปรับการใช้วัคซีนให้สอดคล้องกับการระบาด เป็นที่มาของสูตรวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการปรับอีก ไปจนถึงการฉีดเข็มที่ 3 ไม่ว่าประชาชนจะฉีด 2 เข็ม เป็นสูตรไหนมา ประเทศไทยมีคณะศึกษาทำงานคอยวัดภูมิคุ้มกัน ถ้าพบว่าภูมิตกจะนัดมาฉีดเข็มที่ 3 แน่นอน