ใช้ GPS อย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมวิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ

ใช้ GPS อย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมวิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ
ภาพจาก pixabay

รวมเทคนิคการใช้ GPS อย่างไรให้ปลอดภัยและแม่นยำ พร้อมวิธีเอาตัวรอด หากรถจมน้ำ

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีอุบัติเหตุชายอายุ 27 ปี ขับรถตาม GPS พุ่งทะลุทางกลับรถใต้สะพานและตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ในจุดทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เสียชีวิต ซึ่งจุดกลับรถใต้สะพานนี้ ไม่มีทางกั้นและเปิดช่องทางริมแม่น้ำเอาไว้ ตามที่ได้รายงานไปแล้ว

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูล เทคนิคการใช้ GPS ประกอบการนำทางขับขี่พาหนะ ให้ปลอดภัย รวมทั้งการเอาตัวรอด หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขับรถลงแม่น้ำ ดังนี้

GPS คืออะไร

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Cartrack บริษัทให้บริการจีพีเอสแทรคกิ้งและระบบติดตามรถเรียลไทม์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ GPS ไว้ดังนี้

GPS นำทาง คือ ระบบนำทางที่ปัจจุบันพบมากทั้งในมือถือ PDA (Personal Digital Assistant) หรือแม้กระทั่งในรถยนต์ที่ระบบนำทางเสริมเข้าไป สิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการรับสัญญาณข้อมูลจากดาวเทียม และประมวลผลเพื่อแสดงพิกัดทางภูมิศาสตร์ ถึงตำแหน่งที่ตั้ง ของอุปกรณ์ GPS นั้น ๆ

โดยใช้การคำนวณจากตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งใช้งานร่วมกับ ระบบแผนที่ ในการใช้วิธีจับคู่ตำแหน่งต่างๆ ที่อ่านได้จากดาวเทียมกับค่าพิกัดในระบบแผนที่

ทั้งนี้ อาจอาศัยเซ็นเซอร์อื่นๆ เพื่อช่วยในการคำนวณระยะทางที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ประเภทของ GPS นำทางมีหลากหลายชนิด ดังต่อไปนี้

GPS ติดรถที่ดี ควรเป็นอย่างไร

GPS ติดรถที่ดีต้องสามารถรายงานตำแหน่งปัจจุบันของรถได้อย่างแม่นยำ ตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ มีฟังก์ชันหรือเซ็นเซอร์พิเศษในการตรวจสอบ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เช่น ระบบสั่งตัดเครื่องยนต์, ระบบห้าม Start เครื่องยนต์, ความเร็ว, การเร่งเครื่อง, การเบรกกะทันหัน, ระยะเวลาในการจอดรถ, ตำแหน่งการจอดรถ, ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น

ตัว GPS ติดรถมีการทำงานร่วมกับระบบซอฟแวร์ที่ดี ใช้งานง่าย ลื่นไหล สามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม และใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android มีระบบการรายงานข้อมูลที่สะดวก ครบถ้วน แม่นยำ จัดไว้เป็นหมวดหมู่ เข้าใจง่าย (มีผลดีอย่างมากสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นธุรกิจหรือบริษัทเพราะนำข้อมูลไปวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้)

GPS และระบบที่มีการเชื่อมต่อหรือใช้งานร่วมกับ Google map หรือ Google street view ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ใช้งาน ซึ่งผู้ผลิตและจำหน่าย GPS แต่ละแบรนด์ต้องลงทุนซื้อบริการของ Google โดยจะทำให้แผนที่จะมีมาตรฐานสูงและอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ไม่พลาดในทุก ๆ รายละเอียดเส้นทางทั้งเก่าและใหม่ และสุดท้ายต้องได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก

4 เคล็ดลับใช้ GPS ให้แม่นยำ

GPS บนสมาร์ทโฟนสามารถเพิ่มความแม่นยำและถูกต้องได้โดยใช้ 4 เคล็ดลับ ดังนี้

  • เน็ตยิ่งแรง GPS ยิ่งเร็ว

นับว่าเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดในการเพิ่มความแม่นยำและความเร็วให้สัญญาณ GPS นั่นคือการเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต เพราะส่งผลโดยตรงกับความสามารถในการจับสัญญาณ GPS ทั้งความเร็วในการค้นหาและความแม่นยำในการบอกตัวแหน่ง

  • โหมดความแม่นยำสูง

สามารถเพิ่มความแม่นยำของ สัญญาณ GPS ในแต่ละ Application ที่มีการใช้งานได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • เข้าไปที่หน้า Settings
  • เลือกที่หัวข้อ Location Access
  • กด เปิด โหมด High Accuracy (ความแม่นยำสูง)

ซึ่งการที่เราเปิดโหมด High Accuracy นั้นจะช่วยให้การจับสัญญาณ GPS มีความแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

  • Reset สัญญาณ

สามารถใช้แอปพลิเคชั่น GPS Status & Toolbox จาก Google Play หรือ App Store ในการรีเซตสัญญาณ GPS เพื่อให้สามารถจับสัญญาณได้แม่นยำมากขึ้น โดยการทำตามขั้นตอนดังนี้

  • โหลดแอปพลิเคชั่น GPS Status & Toolbox จาก Google Play หรือ App store
  • เข้าแอป ไปที่แถบด้านบนเลือก > Manage A-GPS state > กด Reset จากนั้นรอสักครู่
  • จากนั้นเลือกอีกครั้งที่ Manage A-GPS state > กด Download

เพียงเท่านี้ระบบจะทำการรีเซตสัญญาณ GPS ใหม่ เพื่อให้ตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์อาจมีปัญหา

การจับสัญญาณ GPS ได้ช้าไม่แม่นยำหรือช้าเกินไปนั้นอาจเกิดจากฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ มีปัญหา โดยสามารถตรวจความพร้อมของอุปกรณ์ได้โดยใช้แอปพลิเคชั่น GPS Essentials ซึ่งมีวิธีการใช้งานดังนี้

  • เมื่อเปิดแอปพลิเคชั่น GPS Essentials ให้เลือกที่ Satellites แล้วรอสักพัก ถ้าเกิดว่ามีสัญลักษณ์รูปดาวเทียม และมีสัญญาณ GPS เป็น สีเขียว ซึ่งหมายความว่า GPS สมาร์ทโฟนของเราใช้งานได้ปกติ
  • ถ้าไม่ปรากฏสัญลักษณ์รูปดาวเทียม อาจเป็นไปได้ว่าฮาร์ดแวร์ (ตัวอะไหล่, อุปกรณ์, เซ็นเซอร์, ตัวรับส่งสัญญาณ เป็นต้น) ของคุณอาจกำลังมีปัญหา
  • แต่ถ้าไม่ปรากฏ สัญญาณของ GPS แปลว่าปัญหาอาจเกิดจากซอฟต์แวร์ ภายในตัวเครื่อง ซึ่งอาจจะต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป

ใช้โหมด Satellite

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ท่านหนึ่งได้แนะนำการใช้ GPS แบบ Satellite เป็นการแสดงภาพจากดาวเทียมถึงสภาพถนนที่กำลังขับรถอยู่ว่ายังอยู่ในเลนหรือไม่ และรอบข้างสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร

 

1 นาทีเอาตัวรอดจากรถจมน้ำ

ข่าวสด เปิดเผย วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ มีดังนี้

1. มีสติ อย่าใจร้อน และพยายามทำใจให้สงบ เมื่อรถลงน้ำ ปลดเข็มขัดนิรภัยและปลดล็อกประตู ซึ่งมีเวลาอย่างน้อย 30 วินาทีในการออกจากรถ โดยผลการวิจัยพบว่า ยานพาหนะจะลอยจริงเป็นเวลา 30 – 120 วินาทีก่อนที่จะจม

2. เลื่อนกระจกลงทั้ง 4 ด้าน เมื่อรู้ว่ารถกำลังตกลงไปในน้ำให้พยายามกดเปิดกระจก โดยทั่วไปรถจะไม่จมและแบตเตอรียังไม่ดับในทันที หากรถมีซันรูฟหรือสามารถเปิดประทุนให้รีบเปิดกระจกบนหลังคา เพราะกระจกไฟฟ้าจะทำงานอย่างน้อยหนึ่งนาทีจนกว่าน้ำจะท่วมเครื่องยนต์

3. อย่าเสียเวลาพยายามเปิดประตูและหน้าต่างด้วยมือ เนื่องจากแรงดันน้ำมหาศาลจากนอกรถจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูและหน้าต่างได้จนกว่าแรงดันจะเท่ากัน ในกรณีที่คุณสามารถเปิดประตูได้ น้ำจะพุ่งเข้ามาในรถ ซึ่งอาจทำให้เสียสมาธิมากยิ่งขึ้นและจะทำให้รถจมเร็วขึ้น

4. เปิดไฟรถยนต์ หากรถจมน้ำอย่างรวดเร็วให้ต่อสู้กับความตื่นตระหนก จากนั้นเปิดไฟภายในรถและหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อช่วยให้หน่วยกู้ภัยเห็นว่าคุณอยู่ที่ไหน

5. หาอุปกรณ์ทุบกระจก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดึงก้านพนักพิงศีรษะที่สามารถถอดออกได้ออก จากนั้นรวบรวมแรงที่มีให้มากที่สุด ใช้ก้านพนักพิงศีรษะทุบกระจกด้านข้างประตูรถยนตร์เท่านั้น เพื่อนำตัวลอดออกมาจากรถผ่านทางช่องหน้าต่าง เพราะกระจกหน้าและหลังของรถยนต์มีความหนา ทำให้แตกได้ยาก

ขอแนะนำให้ซื้อค้อนนิรภัย เก็บไว้ในรถยนต์ตลอดเวลาและเก็บไว้ในที่ที่สามารถเข้าถึงได้ทันทีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากจะสามารถทุบกระจกให้แตกแล้ว ยังสามารถใช้ป้องกันตัวยามฉุกเฉินได้อีกด้วย

6. เปิดประตู ถ้าไม่สามารถออกจากรถทางหน้าต่างได้ยังมีโอกาสหลบหนี เมื่อระดับน้ำจะเข้ามาในรถจนเกือบถึงเพดาน แรงดันน้ำด้านในรถกับด้านนอกไม่แตกต่างกันมาก

จากนั้นให้สูดเอาอากาศเก็บไว้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะเปิดประตูและออกจากตัวรถ อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณตระหนักถึงการกลั้นหายใจที่ว่ายน้ำยาวนานมากขึ้น ซึ่งหากไม่จำเป็น อย่ารอให้ความดันเท่ากันและขอให้การรอน้ำเต็มรถยนต์เป็นทางเลือกสุดท้าย

7. ให้นำเด็กออกก่อน ถึงแม้ว่าผู้โดยสารทุกคนควรออกจากรถทางหน้าต่างให้เร็วที่สุด แต่เด็ก ๆ จะลำบากขึ้นในการต่อสู้ท่ามกลางกระแสน้ำ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เริ่มต้นด้วยเด็กที่โตที่สุดและพาน้องคนสุดท้องออกไปก่อน

8. อย่าเสียดายของ ไม่ว่าจะคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ กระเป๋าเงิน เครื่องประดับ ฯลฯ สามารถเปลี่ยนและซื้อใหม่ได้ แต่ชีวิตไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้

9. ว่ายน้ำเข้าฝั่งให้เร็วที่สุดและห่างจากรถมากที่สุด หากคุณสับสนและไม่รู้ว่าทางไหนขึ้นไป ให้มองหาฟองอากาศและว่ายน้ำตามทิศทางที่ฟองอากาศกำลังจะลอยขึ้นไป