สาธารณสุขสั่งเฝ้าระวังโควิดกลายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” เข้มกักตัวเที่ยวบินมาจากแอฟริกาต้องกักตัว 10-14 วัน ใช้ระบบ Test & Go ไม่ได้ ชี้ทั่วโลกข้อมูลยังน้อย อย่าเพิ่งกังวล เชื่อขีดความสามารถของไทยตรวจจับได้ ย้ำต้องยึดมาตรการพื้นฐาน ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีองค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อไวัรสโควิด 19 สายพันธุ์ B.1.1.529 เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล โดยตั้งชื่อว่าโอไมครอน ว่า แม้จะยกระดับเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล แต่ไวรัสมากับคน ซึ่งตอนนี้เรากันหมดสำหรับคนที่เดินทางมาจากแอฟริกา การเข้าประเทศไทยยังต้องกักตัว 10-14 วัน
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า จริงๆ แล้วไวรัสตัวนี้ยังไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา เชื่อว่าด้วยลักษณะของการกลายพันธุ์ทั้งหลาย นักวิทยาศาสตร์คาดว่าไวรัสกำลังกลายพันธุ์จนถึงใกล้สิ้นสุดแล้ว ก็จะกลายพันธุ์กลับมาเพื่อให้อยู่กับมนุษย์ได้ง่าย เพราะถ้าติดง่ายก็ตายเร็ว หรือถ้ารุนแรงด้วยตายด้วยก็เป็นไปไม่ได้ เขาก็จะไม่มีที่อยู่
“ตอนนี้เราให้ความสนใจติดตาม โดยเฉพาะสายการบินที่มาจากแอฟริกาก็ยังต้องกักตัว ไม่สามารถเข้าระบบ Test & Go ที่ไม่ต้องกักตัว ซึ่งเราประกาศแค่ 63 ประเทศ/พื้นที่เท่านั้นที่มีความเสี่ยงน้อย เพราะฉะนั้นเรายังวางมาตรการป้องกัน ” นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จริงๆมีข้อมูลตั้งแต่กลาง พ.ย. ว่ามีการระบาดที่บอตสวานา ขยับมาที่แอฟริกาใต้ ไปหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง เบลเยียม อิสราเอล
ทั้งนี้ ปกติไวรัสที่กลายพันธุ์จะค่อยๆ ถูกยกระดับในการกำกับติดตามดู เป็นระดับที่น่าสนใจ และระดับที่น่าห่วงกังวล ซึ่งเมื่อวานผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกพูดคุยมีข้อมูลเบื้องต้นพบว่า น่าจะชัดเจนในระดับห่วงกังวล และให้ชื่อโอไมครอน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสนามจริงยังมีน้อย แต่ข้อกังวลคือลักษณะการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งมาก 50 กว่าตำแหน่ง โดยมี 32 ตำแหน่งอยู่ในสไปก์โปรตีนหรือโปรตีนหนามที่จะมาจับกับเซลล์มนุษย์ ฉะนั้นต้องรวบรวมข้อมูลต่อ ยังไม่อยากให้กังวลมาก
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามามีผลตรวจเจอเชื้อ 100 กว่าคน เราจะเอาตัวอย่างเหล่านี้มาตรวจรหัสพันธุกรรมทั้งตัว ว่ามีสายพันธุ์นี้หลุดเข้ามาหรือไม่ และน่ายินดีว่า ที่เข้ามาระบบ Test&Go ตรวจวันเดียวปล่อยไม่มีประเทศในแอฟริกาในบัญชีรายชื่อ ถ้าจะเข้ามาต้องกักตัวและอาจยาวนานขึ้น โดยทุกรายที้ผลบวกไม่ว่าตรวจเจอวันไหนก็ต้องเอามาตรวจรหัสพันธุกรรมว่ามีสายพันธุ์นี้หรือไม่
“ขอว่าอย่าเพิ่งกังวล ให้รอข้อมูลก่อน เข้าใจว่าองค์การอนามัยโลกกำลังรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีข้อเท็จจริงบางประการ ออมิครอน ไม่ใช่ลูกหลานเดลตา อัลฟา หรือไวรัสที่น่าห่วงกังวลเดิม แต่พัฒนามาจากอีกสายหนึ่งจึงมีการกลายพันธุ์ที่ว่า ซึ่งการกลายพันธุ์เราดูว่าทำให้แพร่เร็วไหม หลบวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันไหม และทำให้โรครุนแรงไหม
โดยจะรวบรวมข้อมูลจากประเทศต่างๆ ซึ่งข้อมูลอยู่ระดับหลักพันเท่านั้นเอง ทั่วโลกต้องช่วยกันจับตา แต่ให้ความมั่นใจว่า ระบบของเรามีขีดความสามารถพอที่จะตรวจจับ ถ้าหลุดรอดเข้ามาในประเทศ” นพ.ศุภกิจกล่าว และว่า สำหรับมาตรการพื้นฐานยังสำคัญ คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และถ้ามีข่าวแบบนี้ต้องระมัดระวังตนเองมากขึ้น หลายประเทศกลับมาระบาดเพราะหย่อนมาตรการ แม้จะฉีดวัคซีนเพิ่มก็ตาม