“สมเด็จช่วง” เปิดเส้นทางชีวิต เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

ภาพจาก ข่าวสด

เปิดเส้นทางชีวิต สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ

วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) ประธานสมัชชามหาคณิสสร และอดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 96 ปี พรรษา 76 หลังจากอาพาธ มาเป็นระยะเวลาหลายปี เมื่อตอนเช้าของวันนี้

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมประวัติสมเด็จช่วง ถึงเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นหนึ่งในบรรดาสมเด็จพระราชาคณะ รัตตัญญู ทรงคุณธรรม แตกฉานในพระไตรปิฎก เป็นเสาหลักแห่งคณะสงฆ์ไทย เคยดำรงตำแหน่งสูงสุด คือ ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

สำหรับประวัติ เกิดเมื่อวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2468 ที่จังหวัดสมุทรปราการ โยมบิดาและโยมมารดาชื่อนายมิ่งและนางสำเภา สุดประเสริฐ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน

เส้นทางบวชเรียน

ข่าวสด รายงานว่า ขณะมีอายุ 7 ขวบ นายมิ่ง ผู้เป็นบิดาถึงแก่กรรม ญาติจึงให้บรรพชาหน้าไฟตามประเพณีพร้อมกับพี่ชาย หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว พี่ชายได้ลาสิกขา แต่ท่านยังครองเพศสามเณรอยู่ระยะหนึ่งจึงได้ลาสิกขา หลังจากนั้น ชีวิตเริ่มผูกพันกับวัดในละแวกใกล้บ้าน คือ วัดสังฆราชาและวัดลาดกระบัง และสำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ของโรงเรียนประชาบาลวัดสังฆราชา

เมื่ออายุได้ 14 ปี ได้เข้ารับบรรพชาอีกครั้ง ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2482 ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โดยมีพระครูศีลาภิรัต (ทอง) วัดลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้น มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมและสอบนักธรรม ชั้นตรี-โท ได้ในสำนักศาสนศึกษาวัดสังฆราชา ในระหว่างนั้น ได้ทราบกิตติคุณของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เกิดความปรารถนาจะเข้ามาศึกษาต่อภายใต้ร่มบารมีธรรมของหลวงพ่อสด

ปี 2484 ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำ โดย พระแจ่ม วัดสังฆราชา เป็นผู้นำมาฝากและได้เข้าอุปสมบท ในที่สุด ก็ได้เข้ารับการอุปสมบทในวันที่ 11 พฤษภาคม 2488 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร พระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูสมณธรรมสมาทาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายานามว่า “วรปุญฺโญ”

ปี 2497 หลังจากสำเร็จการศึกษาชั้นเปรียญธรรม 9 ประโยค จึงไปรับตัวท่านกลับมาช่วยงานที่วัดปากน้ำ เพื่อสานต่องานและโครงการที่หลวงพ่อริเริ่มไว้

เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เมื่อปี 2499 และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เมื่อปี 2508 สร้างสำนักเรียนวัดปากน้ำให้มีชื่อเสียงด้วยเป็นสำนักเรียนที่สอบเปรียญธรรม 9 ประโยค ได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นสนามสอบบาลีชั้นประโยค ป.ธ.5 ในภูมิภาค

เจ้าประคุณสมเด็จช่วง มีความแตกฉานทางภาษาบาลี สามารถสนทนาภาษาบาลีได้ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่กองบาลีสนามหลวง เมื่อปี 2539 ถือเป็นตำแหน่งสำคัญยิ่งของการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของพระภิกษุสงฆ์

ท่านยังได้มอบปัจจัยให้สร้างพระไตรปิฎกจารึกในแผ่นหินอ่อน เจดีย์ วิหาร เพื่อธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน รวมถึงหอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเป็นที่ประชุมกรรมการ มส.ทุกวันนี้

สมณศักดิ์ หลากประเทศ

เจ้าประคุณสมเด็จช่วง ได้รับการถวายสมณศักดิ์จากหลายประเทศ อาทิ

  • พ.ศ. 2520 ได้รับสมณศักดิ์จากบังกลาเทศ ที่พระศาสนธชมหาปัญญาสาระ
  • พ.ศ. 2524 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายอมรปุรนิกาย ที่ พระชินวรศาสนโสภณเตปิฏกวิสารทคณปาโมกขาจริยะ
  • พ.ศ. 2525 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายอัสสคิริยะ ที่ พระศาสนโชติกสัทธัมมวิรทวิมลกิตติสิริ และได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกาสยามวงศ์ ฝ่ายมัลลวัตตะ ที่ พระธรรมกิตติสิริเตปิฏกวิสารโท
  • พ.ศ. 2526 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา ฝ่ายรามัญวงศ์ ที่ พระติปิฏกบัณฑิตธัมมกิตติสสิริยติสังฆปติ
  • พ.ศ. 2526 ได้รับสมณศักดิ์จากศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายโกฏเฏ ที่ พระอุบาลีวังสาลังการะอุปัชฌายธรรมธีรราชมหามุนีเถระ
  • พ.ศ. 2558 รัฐบาลเมียนมา ถวาย “อัคคมหาบัณฑิต” ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
  • พ.ศ. 2560 สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาตั้ง เป็นประธานอำนวยการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือหมู่บ้านรักษาศีล 5

ส่วนสมณศักดิ์นั้น เริ่มจากพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระศรีวิสุทธิโมลี วันที่ 5 ธันวาคม 2499 และได้รับการสถาปนาให้เป็นสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2538 ในราชทินนามว่า “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิตวิธาน ปฏิภาณสุธรรมภาณีศรีสังฆโสภณ วิมลศีลาจารนิวิฐ ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี อรัญวาสี”

สร้างวัดไทยในต่างประเทศ


ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย ระบุว่า สมเด็จช่วง ฝากผลงานการเผยแผ่ศาสนาพุทธในต่างประเทศ ดังนี้

  • พ.ศ. 2527 ได้เริ่มสร้างวัดไทยในสหรัฐอเมริกา ตั้งชื่อวัดว่า “วัดมงคลเทพมุนี” เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวต่างชาติมาถึงปัจจุบัน สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 50 ล้านบาท
  • พ.ศ. 2540 ได้ริเริ่มก่อสร้างวัดไทยแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นตั้งชื่อว่า “วัดปากน้ำญี่ปุ่น” เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวญี่ปุ่นภายในวัดมีเสนาสนะบริบูรณ์ และได้สร้างอุโบสถสถาปัตยกรรมไทย ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต เมื่อวันที่ 9-10 เมษายน พ.ศ. 2548 สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท
  • พ.ศ. 2545 ได้ริเริ่มก่อสร้างวัดไทยในประเทศนิวซีแลนด์ ตั้งชื่อว่า “วัดปากน้ำนิวซีแลนด์” เมืองทัวรังง่า ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวนิวซีแลนด์ ปัจจุบันกำลังดำเนินการสร้างอุโบสถ และเสนาสนะ สิ้นค่าก่อสร้าง ประมาณ 60 ล้านบาท