เปิดมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย ล่าสุด 11 ม.ค. 65

นักท่องเที่ยว โควิด

กระทรวงการต่างประเทศ เปิดมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยล่าสุด มีผลตั้งแต่ 11 มกราคม 2565

วันที่ 14 มกราคม 2565 กระทรวงการต่างประเทศ Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand เปิดเผย มาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2565 ดังนี้

แซนด์บอกซ์

  • พำนักในพื้นที่แซนด์บอกซ์เป็นเวลา 7 วัน จึงสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้
  • พื้นที่แซนด์บอกซ์ ปัจจุบัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่าและเกาะพะงัน)

เงื่อนไขผู้เดินทาง

  1. หนังสือเดินทาง
  2. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามข้อกําหนด
  3. หลักฐานการจองโรงแรม SHA Extra + / AQ 7 วันพร้อมค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้งและรถรับส่งจากสนามบิน-โรงแรม
  4. เอกสารประกันที่มีวงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 USD (ยกเว้นบุคคลสัญชาติไทย)
  5. ผลตรวจ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ยกเว้นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี)
  6. วีซ่า (ถ้าจําเป็น)

ผู้เดินทางอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วนต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครอง (ยกเว้นกรณีอายุ 12-17 ปีที่ได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็มสามารถเดินทางโดยลําพังได้)

ALTERNATIVE QUARANTINE (AQ)

  • กักตัว 7 วัน สําหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามข้อกําหนด
  • กักตัว 10 วันสําหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับไม่ครบตามข้อกำหนด

เงื่อนไขผู้เดินทาง

  1. หนังสือเดินทาง
  2. เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามข้อกำหนด (กรณีกักตัว 7 วัน)
  3. หลักฐานการจองโรงแรม AQ 7/10 วันพร้อมค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้งและรถรับส่งจากสนามบิน-โรงแรม
  4. เอกสารประกันที่มีวงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 USD (ยกเว้นบุคคลสัญชาติไทย)
  5. ผลตรวจ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ยกเว้นบุคคลสัญชาติไทยและผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี)
  6. วีซ่า (ถ้าจําเป็น)

กรณีผู้เดินทางอายุต่ำกว่า 18 ปี เดินทางด้วยตัวเองจะต้องแนบเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน 1 เข็มเพื่อให้ได้รับสิทธิกักตัว 7 วัน

หมายเหตุ

  • ผู้เดินทางที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 22 ธันวาคม 2564 รัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2
  • ผู้ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าตรวจ RT-PCR ด้วยตัวเอง