คนละไม้คนละมือ ร่วมแรงร่วมใจเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาฝุ่นจิ๋วหรือ PM 2.5
ล่าสุด “รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย” ประกาศเกียรติคุณรางวัลให้กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่รักษามาตรฐานการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ในโครงการรถไฟฟ้า “สายสีส้มตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
โดยใบประกาศเกียรติคุณรางวัลดังกล่าว เป็นผลงานในช่วงเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 สำหรับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่รักษามาตรฐานการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมให้ครบถ้วนสม่ำเสมอ
แบ่งเป็นรางวัลดีเด่น ได้แก่ “ITD-บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)” สัญญาที่ 3 จำนวน 1 พื้นที่ (สถานีลำสาลี) กับรางวัลชมเชย สัญญาที่ 3 จำนวน 1 พื้นที่ (ทางวิ่งระหว่างจุดเชื่อมต่อสัญญา 2 ถึงสถานีลำสาลี)
ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ “กิจการร่วมค้า CKST” ธุรกิจรับเหมาพันธมิตรระหว่างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 จำนวน 2 พื้นที่ (ทางวิ่งระหว่างสถานี รฟม.ถึงสถานีประดิษฐ์มนูธรรม กับทางวิ่งระหว่างสถานีรามคำแหงถึงสถานีราชมังคลา)
ประกาศเกียรติคุณรางวัลดังกล่าว เพื่อเป็นการสนับสนุนและเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้รับเหมาที่มีผลการปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม โดย รฟม.ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ได้ติดตามการดำเนินงานตามมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือฝุ่นจิ๋ว PM 2.5
โดยกำชับให้ผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธาทุกสัญญาติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำ ลดฝุ่นละออง และจัดรถดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดถนนสาธารณะตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกทุกวัน เพื่อลดผลกระทบด้านฝุ่นละออง
ที่สำคัญมีการปฏิบัติตามมาตรการด้านฝุ่นละอองที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA อย่างเคร่งครัด เช่น การล้างทำความสะอาดถนนเป็นประจำ ทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพเครื่องจักร/รถบรรทุก รวมทั้งได้ประสานขอความร่วมมือผู้รับเหมางดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง
ทั้งนี้ งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกยังดำเนินการไปได้ตามแผนงาน เพื่อให้สามารถคืนผิวจราจรแก่ประชาชน ใช้สัญจรได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยให้การจราจรคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางในการบรรเทามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อย่างยั่งยืน
