อย.เตือนเลี่ยงรับประทาน หอยคราง หลังตรวจพบปนเปื้อนสารแคดเมียมเกินมาตรฐาน แนะพบเห็นสินค้าแบบนี้ให้แจ้ง 1556 ก่อนพารู้จักหอยครางพี่น้องหอยแครง
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เผยแพร่ข่าวการพบปริมาณสารแคดเมียมเกินมาตรฐานในผลิตภัณฑ์หอยครางต้มแช่แข็ง ความว่า
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
อย.ได้เก็บตัวอย่าง “หอยครางต้มแช่แข็ง” (Frozen Boiled Bloody Clam Meat SIZE:300/500) ผลิตโดยบริษัท WEIFANG YANGDA FOOD CO.,LTD สาธารณรัฐประชาชนจีน นำเข้าโดยบริษัท นันท์สถิตย์ ซีฟูดส์ จำกัด ตั้งอยู่จังหวัดสมุทรสาคร ที่บริเวณด่านอาหารและยาท่าเรือกรุงเทพ
จากการตรวจสอบในรายละเอียด พบวันผลิต 21 เมษายน 2564 วันหมดอายุ 20 เมษายน 2566 น้ำหนักสุทธิ 1 กิโลกรัม ผลการตรวจวิเคราะห์พบแคดเมียม 2.42 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ต้องไม่เกิน 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ตามมาตรา 26(1) แห่งพ.ร.บ.อาหาร 2522 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงจัดเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภค และ อย. ได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ดังนั้น อย.จึงขอแนะนำว่า ผู้บริโภคอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ “หอยครางต้มแช่แข็ง” ที่ฉลากระบุวันที่ผลิตและวันหมดอายุดังกล่าวมารับประทาน
กรณีที่พบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าจะเป็นอันตราย ขอให้แจ้งร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
รู้จักหอยคราง
เว็บไซต์สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ระบุว่า หอยครางคือ หอยทะเลสองฝาชนิดหนึ่งในวงศ์เดียวกันกับหอยแครง ลักษณะเปลือกหอยแข็ง มีขนาดปานกลาง มีฟันเปลือกหอยจำนวนมาก เปลือกหอยครางมีลักษณะทรงใกล้เคียงกับสี่เหลี่ยมคางหมู ฝาหอยบนและล่างมีขนาดแตกต่างกัน เปลือกหอยปกคลุมด้วยขน จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หอยแครงขน” โดยขนาดของหอยครางนั้นจะใหญ่กว่าหอยแครง
ธรรมชาติของหอยครางหอยครางนั้นชอบอาศัยอยู่ในโคลนทราย บริเวณแนวปะการังลึกไม่น้อยกว่า 5 เมตร และด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าหอยแครงทำให้การทำความสะอาดยากกว่าด้วย คนจึงยังไม่ค่อยนิยมรับประทานมากนัก
รสชาติมีความคล้ายคลึงกับหอยแครง เพียงแต่มีความเหนียวมากกว่า การนำไปปรุงอาหารใช้วิธีเดียวกับหอยแครงคือ มีทั้งการพล่า ทำลวกจิ้ม ยำ และแกง
อย่างไรก็ตาม หอยชนิดนี้ยังเป็นหอยที่หาได้จากธรรมชาติ ยังไม่มีการเพาะเลี้ยงเกิดขึ้น แตกต่างจากหอยแครง ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค จนต้องมีการนำมาเพาะเลี้ยงเพื่อให้มีปริมาณเพียงพอแก่ตลาด และยังสามารถขายได้ราคาสูง