ประกันสังคมปลดเจ้าหน้าที่ทุจริตเงินชราภาพแล้ว ดำเนินการอาญา-แพ่ง-วินัย เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินการเกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่ทุจริตเงินชราภาพอย่างเด็ดขาดว่า สปส.ได้มีคำสั่งปลดออกพนักงานคนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมทุจริตจริง พร้อมดำเนินการทั้งในทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัย นอกจากนี้ ยังเร่งเยียวยาผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ และเร่งปรับปรุงระบบจ่ายเงิน โดยห้ามให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมเบิกจ่ายเงิน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และในปี 2561 ผู้ประกันตนสามารถนำบัตรประชาชนเพียงใบเดียวติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของตนเอง รวมถึงเงินชราภาพ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สำหรับหลักเกณฑ์การรับเงินบำนาญชราภาพ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนไปจนกว่าเสียชีวิต ภายใต้เงื่อนไข ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน

เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจ สำนักงานประกันสังคมมีการดูแลเงินของผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบเข้ามาทุกๆ เดือนอย่างดีที่สุด และขณะนี้ได้ปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันการทุจริต โดยห้ามเจ้าหน้าที่รับเงินสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางทั้งหมดอย่างเด็ดขาด พร้อมแนะนำผู้ประกันตนตรวจสอบสิทธิก่อนอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้เกิดความถูกต้องทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนท่านใดพบเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตขอให้แจ้งสำนักงานประกันสังคมหลายช่องทางด้วยได้แก่ สำนักงานประกันสังคกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขา/ที่ท่านสะดวก ทั้งนี้ หากนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน มีปัญหาจากการรับบริการในระบบประกันสังคม สามารถร้องเรียนได้หลายช่องทางด้วยกัน โดยยื่นร้องเรียนด้วยตนเอง ผ่านโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือที่เว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐ www.1111.go.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพนักงานประกันสังคม โทษสูงสุด คือการปลดออกเทียบเท่ากับการไล่ออกของข้าราชการ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์