มท.1 แจงปีใหม่นั่งท้ายกระบะได้ แต่ห้ามนั่งขอบกับดื่มสุรา ชวนคนไทยสวดมนต์ข้ามปี

“มท.1” ตั้งเป้าลดการสูญเสียบนท้องถนนช่วงปีใหม่ ย้ำตร.ดูแลถนนสายหลัก-ฝ่ายปกครองดูถนนสายรอง แจงนั่งท้ายกระบะกลับบ้านได้ แต่ห้ามนั่งขอบกับดื่มสุรา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน “ร่วมกันสร้างการสัญจรที่ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม ว่า วันนี้จะหารือถึงมาตรการต่างๆ และแผนความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด ทุกฝ่ายต้องมีคนรับผิดชอบในระดับพื้นที่ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ส่วนตามอำนาจหน้าที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย ส่วนด่านชุมชนจะมีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ท้องถิ่น ท้องที่เป็นผู้ดูแล นอกจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงมูลนิธิต่างๆ ที่พร้อมเข้าแก้ปัญหาเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ขณะที่การสัญจรในเส้นทางรองจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ท้องที่ ท้องถิ่น รวมถึงทหารในพื้นที่และขนส่งดูแล ส่วนถนนสายหลักจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารดูแลเป็นหลัก และต้องมีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ในการบังคับใช้ โดยเจตนาของการประชุมครั้งนี้ตั้งใจที่จะลดสถิติการสูญเสียบนท้องถนนหรือไม่ให้เกิดการเสียชีวิตของประชาชนให้มากที่สุด

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาปัจจัยที่ทำให้เกิดการสูญเสียทราบกันอยู่แล้วว่าเกิดจากการดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ การขับรถเร็ว การขับรถโดยประมาท และอาจจะไม่คำนึงถึงระบบนิรภัยเช่นการสวมหมวกกันน็อค ซึ่งทำให้การสูญเสียเกิดขึ้น โดยวันนี้จะนำข้อมูลและสถิติของปีที่ผ่านมา มาวิเคราะห์ รวมถึงมาตรการที่เคยใช้และดำเนินไปแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไร ต้องเพิ่มเติมหรือปรับปรุงอย่างไรต้องพูดคุยกันหมด เพื่อให้ลดอุบัติเหตุลงได้ อย่างในช่วง 2-3 เทศกาลที่ผ่านมา สถิติการสูญเสียไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นสถิติที่สูงอยู่ และบางครั้งอาจจะสูงกว่าของเก่าซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามขอฝากความห่วงใยไปยังประชาชนที่กำลังเดินทางกลับว่าชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว และสังคมประเทศชาติ ฉะนั้นเดินทางที่ต้องใช้รถ ใช้ถนน ขอให้เดินทางด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเข้มงวด และอยากให้ทุกคนช่วยตักเตือนคนรู้จักให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อถามว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็จะมีการจัดลานเบียร์ จะกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อยากรณรงค์ให้ช่วงเทศกาลมีการเฉลิมฉลองโดยไม่ต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเรารณรงค์ในเรื่องการสวดมนต์ข้ามปี และทำกิจกรรมที่เป็นสิริมงคล ทำบุญตักบาตร ถือเป็นมาตรการหนึ่งที่อยากให้ทุกคนนำไปปฏิบัติ เพราะหากมีการฉลองโดยต้องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ อยากให้สื่อช่วยรณรงค์สร้างค่านิยมทำสิ่งที่เป็นมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย เช่น การสวดมนต์ข้ามปี เข้าวัด และใส่บาตร

เมื่อถามว่า จะมีการผ่อนผันให้ประชาชนสามารถนั่งท้ายรถกระบะกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอเสนอเป็น 2 แนวคิดคือปัจจุบันสังคมยังมีผู้ยากลำบากในการเดินทางและยังไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่จะรองรับได้พอเพียง หลายคนอาจจะเดินทางโดยรถปิกอัพหรือรถกระบะ อยากให้ประชาชนที่สัญจรโดยวิธีนี้ต้องระมัดระวังเพราะเสี่ยงต่อการอุบัติเหตุมาก และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนั่งบริเวณขอบกระบะ ส่วนการบังคับใช้กฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงต่อสื่อแล้วว่าเพื่อความปลอดภัยของทุกคนจะต้องไม่นั่งที่ขอบกระบะเพราะถือว่าเป็นความผิดและต้องไม่มีการดื่มสุรากันในรถ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระบุแล้วว่านั่งกระบะได้ แต่ห้ามนั่งขอบกระบะและต้องไม่ดื่มสุรา

 

ที่มา : มติชนออนไลน์