บขส.เผยตัวเลขผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ 12 เม.ย. กว่า 4 หมื่นคนเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ พร้อมแนะเที่ยวกลับจองตั๋วล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์สะดวก ลดสัมผัส สมาชิก บขส. Card รับส่วนลด 5% และสะสมคะแนนคูณสอง
วันที่ 13 เมษายน 2565 ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 มีผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารเดินทางเข้า-ออก กรุงเทพฯ จำนวน 70,327 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 5,919 เที่ยว โดยเป็นการเดินทางขาออก จำนวน 3,031 เที่ยว มีผู้โดยสารเดินทาง 42,769 คน ส่วนการเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ จำนวน 2,888 เที่ยว มีผู้โดยสารเดินทาง 27,558 คน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
สำหรับการเดินทางวันนี้ (13 เม.ย.65) คาดการณ์ว่า จะยังมีประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะคนบ้านใกล้ อาทิ จังหวัดนครราชสีมา กาญจนบุรี สระบุรี และชลบุรี เดินทางในระยะสั้นอยู่ ซึ่ง บขส. ได้เตรียมจัดรถโดยสารไว้รองรับแล้ว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ในการเดินทางเที่ยวกลับ 16-18 เมษายน 2565 บขส. คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 38,000 คน และใช้รถโดยสารประมาณ 3,700 เที่ยว จึงได้มีการสั่งการไปยังนายสถานีเดินรถให้เตรียมความพร้อมและจัดหารถโดยสารไว้ให้บริการอย่างเพียงพอ รวมทั้งได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนตลอดเทศกาลสงกรานต์นี้ด้วย
ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้า เพื่อเตรียมเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ผ่านระบบจองตั๋วออนไลน์ Application E-Ticket หรือ Website บขส.ได้ง่าย ลดการสัมผัส และพิเศษกว่าใคร สมาชิก บขส.Card เมื่อซื้อตั๋วจะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 5 % (ตลอดอายุสมาชิก)
และหากซื้อตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์ Application E-Ticket และ Website บขส. จะได้รับคะแนนคูณสองตลอดเดือนเมษายนนี้ สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม โทร Call Center 1490 เรียก บขส.ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัย บขส.ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทั้งในส่วนของรถโดยสาร และพนักงาน โดยพนักงานขับรถทุกคน ต้องมีผลตรวจหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ เพื่อสร้างความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข
อาทิ พนักงานประจำรถต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit หรือ ATK ทุก 3 วัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เช็ดทำความสะอาดรถโดยสารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคก่อนนำรถมาให้บริการ และมีการระบายอากาศอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ ในส่วนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในสถานี มีการดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting สำหรับบริการขนส่งสาธารณะ อาทิ มีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีการเช็ดทำความสะอาดในจุดที่สัมผัสบ่อย (เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว, ห้องน้ำ) มีการเว้นระยะห่างในสถานีขนส่ง และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดีและเพียงพอ