เปิดผลวิจัยยาอีวูชิลด์ แอสตร้าฯ เผยลดเสี่ยงติดโควิดอย่างน้อย 6 เดือน

ยาอีวูชิลด์ โควิด

แอสตร้าเซนเนก้าเผยผลวิจัยทดลองยาอีวูชิลด์ พบฉีดครั้งเดียวลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิดแบบมีอาการได้อย่างน้อย 6 เดือน 

วันที่ 21 เมษายน 2565 บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ได้เปิดเผยผลการทดลองใช้ ยาอีวูชิลด์ (Evusheld) เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนการสัมผัสโรค สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 แบบมีอาการ โดยไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 หลังได้รับยา ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565

แอสตร้าฯระบุว่า ผลการศึกษาระยะที่ 3 พรูฟเวนต์ (PROVENT) ในการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อไวรัสก่อโรคพบว่า ยาอีวูชิลด์ของแอสตร้าฯ (เดิมชื่อ AZD7442 ส่วนผสมระหว่างแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาว 2 ชนิด ได้แก่ tixagevimab และ cilgavimab) สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคโควิด-19 แบบมีอาการได้ร้อยละ 77 จากการวิเคราะห์เบื้องต้น และร้อยละ 83 จากการวิเคราะห์มัธยฐานที่ระยะเวลา 6 เดือน เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก (Placebo)

การทดลองนี้พบว่าไม่มีผู้ป่วยอาการร้ายแรง หรือการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ตลอดการติดตามผลในระยะเวลา 6 เดือน มากกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนผู้เข้าร่วมการศึกษาพรูฟเวนต์มีโรคประจำตัว ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรง ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและอาจมีภูมิคุ้มกันตอบสนองไม่เพียงพอต่อการรับวัคซีน

นอกจากนี้ ข้อมูลเพิ่มเติมจากเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics) ยังแสดงให้เห็นอีกว่า ความเข้มข้นของยาอีวูชิลด์ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเป็นระยะเวลา 6 เดือน หลังการได้รับยา ซึ่งสนับสนุนว่าการฉีดยาครั้งเดียวก็สามารถให้การป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ได้อย่างน้อย 6 เดือน

นพ.ไมรอน เจ เลวิน ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์ และอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา และผู้วิจัยหลักของการทดลองพรูฟเวนต์กล่าวว่า ในขณะที่วัคซีนโควิด-19 มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต แต่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลายคนยังมีความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมไปถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้

ทั้งนี้ การทดลองสามารถทำให้มั่นใจได้ว่ายาอีวูชิลด์ที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงโดสเดียวสามารถให้การป้องกันแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางได้เป็นระยะเวลานาน ไม่เพียงเท่านั้นยาอีวูชิลด์ยังสามารถลบล้างเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลักในปัจจุบันได้

ด้านเมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) ของแอสตร้าฯกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานสนับสนุนการใช้ยาอีวูชิลด์เพื่อการป้องกันการเกิดโรคโควิด-19 แบบมีอาการและการเกิดโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ภูมิคุ้มกันตอบสนองไม่เพียงพอต่อการรับวัคซีนและต้องการการป้องกันที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันยาอีวูชิลด์มีผู้ใช้แล้วในหลายประเทศทั่วโลก การขึ้นทะเบียนกำลังคืบหน้าสำหรับทั้งการใช้ยาสำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสโรคและการใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง