สธ.เปิดฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 7 กลุ่มเสี่ยง เริ่ม 1 พ.ค. นี้ ฟรี!

ฉีดวัคซีน
แฟ้มภาพ : CVC กลางบางซื่อ

กระทรวงสาธารณสุข เปิดฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 7 กลุ่มเสี่ยงฟรี เริ่ม 1 พ.ค. 65 นี้ ฉีดได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนใกล้บ้านที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ แนะนำให้ฉีดที่แขนคนละข้าง

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในปีนี้ กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2565 ในประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่

  • 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี)
  • 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
  • 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
  • 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • 5.ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
  • 6.โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
  • 7.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ นอกจากนี้ ได้เตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ยังคงมีความจำเป็นแม้ว่าจะฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปแล้ว เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน ประชาชนควรได้รับวัคซีนทั้ง 2 ตัว โดยสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ (แนะนำให้ฉีดที่แขนคนละข้าง) โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้

จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ได้ทีสถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2565 นี้


พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เน้นการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เช่นเดียวกับการป้องกันโรคโควิด 19 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422