หลังคริสต์มาส วาฟเตือนระวังสุขภาพจากภาวะฝนควบหนาว เช้ากทม.ต่ำกว่า 20 องศาอีกรอบ

วันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากการตรวจสอบแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) ของสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พบว่าเวลานี้พายุไต้ฝุ่นเทมบิง (TEMBIN) ที่อยู่บริเวณตอนล่างของทะเลจีนใต้ มีกำลังแรงเป็นพายุใต้ฝุ่นระดับ 1 มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือผ่านปลายแหลมญวนแล้วอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน และอ่อนลงต่อเนื่องเป็นพายุดีเปรสชั่น ลงก่อนเข้าสู่อ่าวไทยตอนบน โดยเมื่อเคลื่อนที่เข้าปลายแหลมญวนและอ่าวไทย จะมีบริเวณความกดอากาศสูง แผ่ลงมาปะทะกับลมที่หมุนอยู่ด้านบนของตัวพายุเทมบิง ทำให้เกิดลมพัดสอบ หรือลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดมาปะทะด้านบนของพายุ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตก ในวันที่ 26-27 ธันวาคม เป็นฝนตกปรอยๆ แต่ตกต่อเนื่องยาวๆ

วาฟระบุด้วยว่า ระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม มีบริเวณความกดอากาศสูงแผ่ลงมาทางตอนเหนือของประเทศไทย ทำให้อุณหภูมิลดลง พร้อมทั้งมีฝนตกเกิดขึ้นเกือบทุกภูมิภาค เรียกว่าเป็นภาวะ ฝนควบหนาว โดยในวันที่ 26 ธันวาคม กรุงเทพมหานครจะมีฝนตกตั้งแต่ช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้าของวันที่ 27 ธันวาคม และตกเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่จะตกต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงเช้าวันที่ 27 ธันวาคมนั้น คาดว่ากรุงเทพมหานครจะมีอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้น และมีฝนตกควบคู่กัน

ในส่วนของภาคใต้ วาฟ ระบุว่า ช่วงวันที่ 27-18 ธันวาคม พายุ เทมบิง จะอ่อนกำลังลงมากและเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ลงสู่ทะเลอันดามมัน จะส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกหนักได้ในจังหวัดชุมพร สุราษธานี และนครศรีธรรมราช จากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยอีกครั้งในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม ทำให้กระแสลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงจะกลับมาพัดปกคลุมภาคใต้อีกครั้ง ส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่างกลับมามีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจต้องระวังฝนตกหนักไปจนถึงช่วงปีใหม่