รัฐ-เอกชนเตรียมความพร้อม 100% รับเปิดเทอมออนไซต์ 17 พ.ค. 65

เรือโดยสาร

รัฐ-เอกชนเตรียมความพร้อม 100% รับเปิดเทอมออนไซต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 17 พ.ค. 2565 โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนในรูปแบบออนไซต์เต็มรูปแบบครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 หน่วยงานต่าง ๆ ต่างเตรียมพร้อมรับการเปิดเทอม ดังนี้

ขบ.คุมเข้มมาตรฐานรถรับส่งนักเรียน

นายจิรุฒม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไปทางโรงเรียนจะมีการเปิดภาคเรียน ดังนั้นทางกรมการขนส่งทางบกจึงได้ให้สำนักงานกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศเตรียมความพร้อมต้อนรับการเปิดภาคเรียน โดยกำชับให้ตรวจสอบความปลอดภัยและการให้บริการของรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศอย่างเข้มงวดตลอดภาคการศึกษา ทั้งด้านความปลอดภัยของตัวรถและพนักงานขับรถ

กรณีรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง ต้องชำระภาษีรถประจำปีอย่างถูกต้อง พร้อมที่จะให้บริการรับส่งนักเรียน

กรณีการนำรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้มาใช้รับส่งนักเรียน กรมขนส่งทางบกกำหนดให้ต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา และต้องขออนุญาตใช้รถให้ถูกต้อง นำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียนหรือสถานศึกษานั้นตั้งอยู่เพื่อตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยซึ่งจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น

ทั้งนี้ ภายในรถส่วนบุคคลที่ใช้รับส่งนักเรียนจะต้องมีมาตรฐานดังต่อไปนี้

ADVERTISMENT

1.เครื่องมือจำเป็นสำหรับช่วยเหลือนักเรียนมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก

2.ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นแข็งแรง

ADVERTISMENT

3.กรณีรถสองแถวต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก

4.กรณีรถตู้ต้องเป็นที่นั่งแถวตอนตามความกว้างรถเท่านั้น ห้ามดัดแปลงสภาพรถเพื่อให้รับนักเรียนมากเกินจำนวนปลอดภัย

กรณีผู้ขับขี่ต้องได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีหรือได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะหรือเป็นผู้ขับขี่รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และต้องไม่เคยมีปนะวัติเสียหายอันเนื่องมาจากการขับรถมาก่อนมาก่อน อีกทั้งในรถต้องจัดผู้ควบคุมดูแลนักเรียนซึ่งต้องมีอายุเกินกว่า 18 ปีอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยและคอยช่วยเหลือนักเรียนเวลาเกิดอุบัติเหตุ

เรือด่วนเจ้าพระยาปรับเวลาใหม่

นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โรงเรียนส่วนใหญ่ได้เปิดภาคเรียนใหม่แล้ว บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้นจึงได้ปรับเปลี่ยนตารางเวลาให้บริการเรือโดยสารทุกประเภท เพื่อรองรับผู้โดยสารและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

โดยมีตารางเวลาให้บริการเรือโดยสารทุกประเภท เริ่มใช้วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ดังต่อไปนี้

“เรือธงส้ม” ตาาางวันจันทร์ – ศุกร์ จากนนทบุรี 06.00 – 18.00 น., จากวัดราชสิงขร 06.20 – 18.10 น. ส่วนเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จากนนทบุรี 08.00 -17.00 น. และจากวัดราชสิงขร 08.30 – 17.30 น.

“เรือธงเหลือง” ให้บริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ จากนนทบุรีเดินเรือทั้งหมด 8 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 06.00 – 08.05 น., จากสาทรเดินเรือทั้งหมด 8 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 17.05 – 19.05 น.

“เรือธงเขียว” ให้บริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ จากปากเกร็ดเดินเรือทั้งหมด 5 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 06.05 – 07.45 น., จากสาทรเดินเรือทั้งหมด 5 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 16.00 – 17.45 น.

“เรือธงแดง” ให้บริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ จากนนทบุรีวันละ 3 เที่ยวตามเวลาดังนี้ 06.50, 07.10, 07.25 น., จากสาทรวันละ 3 เที่ยวตามเวลา คือ 16.30, 17.00, 17.30 น.

กรมเจ้าท่าเน้นป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 1/2565 โดยเน้นย้ำเรื่องการทำงานเชิงรุกด้านความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มากกว่าแก้ไขเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว โดยให้วางมาตรการในเชิงป้องกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแนวทางเรื่องการตรวจเข้มการบรรทุกเกิน และใบอนุญาตใช้เรือต้องไม่ขาดอายุด้วย

บีทีเอส-รถไฟฟ้าสายสีทอง ติดตั้งระบบฟอกอากาศใหม่

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 นี้ บริษัทจัด 8 มาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID – 19 ในรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าสายสีทอง และรถด่วนพิเศษบีอาร์ที อาทิ การจัดขบวนรถไฟฟ้าให้บริการเต็มอัตรารวม 98 ขบวน, ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ใช้บริการ, ตรวจคัดกรองอุณหภูมิให้อุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซีลเซียสก่อนเข้าใช้บริการ, จัดเจ้าหน้าที่ให้บริการแอลกอฮอล์ ฯลฯ

นอกจากนี้บริษัทร่วมกับบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดตั้งระบบฟอกอากาศซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งเชื่อไวรัสโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.9% ภายในขบวนรถไฟฟ้า