หมอยงย้ำ ทุกคนควรได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม

หมอยงเผยผลการฉีดวัคซีน 3 วิธี

หมอยงย้ำทุกคนควรได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ส่วนกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรด่านหน้าต้องอย่างน้อย 4 เข็ม

วันที่ 16 มิถุนายน 2565 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ยกตัวอย่างการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ไทยที่มีการตรวจภูมิต้านทานมาโดยตลอด ดังในรูปนี้

หมอยงย้ำทุกคนควรได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม

นพ.ยงระบุว่า เราจะเห็นว่าภูมิต้านทานจะสูงมากหลังฉีดกระตุ้นเพียง 2 สัปดาห์แล้ว หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ลดลง ในรายนี้ฉีดวัคซีนมาแล้วทั้งหมดถึง 5 ครั้ง

พอสรุปได้ดังนี้ การให้วัคซีน 2 เข็มแรกระดับภูมิต้านทานจะขึ้นไม่สูง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไร จำเป็นจะต้องให้เข็มที่ 3 เพื่อยกระดับภูมิต้านทานให้สูงขึ้น เพียงพอกับสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ Omicron ใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าสายพันธุ์เดิมอู่ฮั่นค่อนข้างมาก

ดังนั้นการป้องกันโรคหรือประสิทธิภาพของวัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงในเดือนแรก ๆ หลังการฉีดวัคซีนและเมื่อนานเกิน 4 เดือนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเข็มกระตุ้นที่ 3 หรือ 4 ภูมิต้านทานก็จะลดลงในระดับที่ต่ำกว่าระดับป้องกันการติดเชื้อ

แต่อย่างไรก็ตาม ระบบความจำของร่างกายจะช่วยเสริมการตอบสนองภูมิต้านทานขึ้นอย่างรวดเร็วถ้ามีการติดเชื้อ ทำให้การติดเชื้อมีอาการน้อยลงอย่างมาก และการกำจัดเชื้อ เป็นไปได้รวดเร็วขึ้น

คำถามมักถามเสมอว่าจะกระตุ้นเมื่อไหร่ จากภาพนี้แสดงให้เห็นว่าหลัง 4 เดือนไปแล้วระดับภูมิต้านทานจะลดลงมามาก ตามคำแนะนำจึงแนะนำการกระตุ้นหลัง 4-6 เดือน ไม่ว่าจะเป็น หลังเข็ม 3 หรือเข็ม 4

ทุกคนควรได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ในกลุ่มเสี่ยงหรือที่มีโรคประจำตัว ควรได้อย่างน้อย 4 เข็ม บุคลากรด่านหน้าหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงก็ควรได้อย่างน้อย 4 เข็ม

การกระตุ้นเข็ม 5 อยู่ด้วยความสมัครใจ เพราะขณะนี้มีหลายคนเริ่มถามถึงเข็ม 5 แล้ว เราให้วัคซีนกันมากว่า 1 ปีแล้ว และในอนาคตการให้วัคซีน COVID-19 ก็คงคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ที่ต้องมีการกระตุ้นทุกปี โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ที่เป็นโรคแล้วอาจจะรุนแรง