กรมอุตุฯออกประกาศเตือน ฉบับที่ 8 “พายุโซนร้อนกำลังแรง “ชบา” คาดขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้วันที่ 2-3 ก.ค.นี้ ขณะที่ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านเมียนมา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ 40 จังหวัดของไทยมีฝนตกหนักช่วง 1-2 ก.ค.นี้
วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ ฉบับที่ 8 เรื่อง “พายุโซนร้อนกำลังแรง “ชบา” (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2565) ”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (1 ก.ค. 65) พายุโซนร้อนกำลังแรง “ชบา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 19.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อยด้วยความเร็ว 19 กม./ชม. คาดว่าในช่วงวันที่ 2–3 ก.ค. 65 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 1–2 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค. 65
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 1 กรกฎาคม 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 2 กรกฎาคม 2565
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 23.00 น.