
นฤมลแนะ หาก กนง.ปรับดอกเบี้ยขึ้นเดือนหน้า เป็นเรื่องมีเหตุผลรองรับ แนะ ควรวางแผนป้องกันความเสี่ยง
วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และหัวหน้านโยบายพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรณีเงินเฟ้อ เงินบาทอ่อน หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า จึงเป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลรองรับ โดยโพสต์ระบุว่า
- มหาดไทยประกาศ ขอสละสัญชาติไทย 75 ราย แห่ไปขอถือสัญชาติสิงคโปร์
- ปลื้ม 4 มหาวิทยาลัยไทยติด TOP 100 ของโลกด้านความยั่งยืน
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
#เงินเฟ้อสูง–เงินบาทอ่อน เร่งป้องกันความเสี่ยง
เมื่อวาน ธนาคารกลางยุโรปขึ้นตอกเบี้ยเงินฝาก 0.5% สูงกว่าที่คาดว่าจะขึ้น 0.25% เป็นการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปี ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากจาก -0.5% มาหลายปี มาอยู่ที่ 0% เพื่อรองรับอัตราเงินเฟ้อของ 19 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรสูงขึ้นเท่ากับ 8.6% ซึ่งบางประเทศในกลุ่มนี้ อัตราเงินเฟ้อเกิน 10% ไปแล้ว
ชัดเจนว่าธนาคารกลางยุโรป ปรับดอกเบี้ยไปในทิศทางเดียวกันกับธนาคารกลางอังกฤษ และเฟดของอเมริกา ที่ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อมาหลายรอบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
สองวันก่อน ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนของอังกฤษ ออกมาที่ 9.4% สูงสุดในรอบ 40 ปี คาดว่าถึงปลายปีนี้จะสูงขึ้นอีก ไปแตะ 11% และจะค่อย ๆ ลดลงในปีหน้า ตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว ธนาคารกลางอังกฤษได้ขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 5 รอบ จนปัจจุบันอยู่ที่ 1.25% และคาดว่าในการประชุมเดือนสิงหาคม น่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5%
ฟากสหรัฐอเมริกา อัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายน ออกมาสูงถึง 9.1% สูงสุดในรอบ 40 ปี เช่นกัน เฟดจะประชุมวันที่ 27 กรกฎาคม คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75%
จะเห็นว่า สาเหตุสำคัญของปัญหาเงินเฟ้อพุ่งทะยานในเศรษฐกิจโลก ไม่ได้มาจากแค่ราคาน้ำมัน แต่ส่วนหนึ่งมาจากปริมาณเงินที่เพิ่มเข้าไปในระบบจำนวนมาก ด้วยการพิมพ์เงินของธนาคารกลาง ผนวกกับการใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำอย่างผิดปกติมายาวนาน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเดียว โดยไม่ได้มีมาตรการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ จึงทำให้ระยะเวลาในการแก้ปัญหานานกว่าที่คาด แต่หากดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อัตราเงินเฟ้อของไทย เดือนมิถุนายน เท่ากับ 7.66% พุ่งสูงสุดในรอบ 13 ปี วันที่ 10 สิงหาคม กนง.คงขึ้นดอกเบี้ยแน่ ไทยเราไม่เคยมีการพิมพ์เงินเข้าระบบ จึงไม่ได้น่ากังวลเท่ายุโรปและอเมริกา แต่อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาก็อยู่ในระดับที่ต่ำมากผิดปกติ เพราะดอกเบี้ยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจมานาน อีกทั้งเงินบาทใกล้แตะ 37 บาท อ่อนค่าที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี !
ถ้า กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า จึงเป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลรองรับ เพราะเป็นไปโดยกลไก เพื่อสกัดเงินเฟ้อและดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท และจะได้ออกจากภาวะดอกเบี้ยต่ำผิดปกติ เพียงแต่ขอให้เป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ทุกคนมีเวลาปรับตัว ให้เศรษฐกิจยังโตได้
เมื่อรู้ว่าดอกเบี้ยจะขึ้น ประเมินต้นทุนของทางการเงินที่จะเพิ่มขึ้น แล้ววางแผนป้องกันความเสี่ยง ถ้ามีหนี้ดอกเบี้ยลอยตัวอยู่ ลองหาช่องทางรีไฟแนนซ์ แต่ที่เป็นห่วงมาก คือ ลูกหนี้นอกระบบ ที่เจ้าหนี้อาจฉวยโอกาสเพิ่มดอกเบี้ยมากเกิน มีหลายหน่วยงานช่วยให้คำปรึกษาได้ มีเบอร์ โทร.ปรึกษา หาทางออก ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันค่ะ
* สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด สายด่วน 1157
* ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โทร. 1359
* ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ กระทรวงมหาดไทย โทร. 1567
* ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม โทร. 0-2575-3344