เกรแฮม พอตเตอร์

Graham Potter เกรแฮม พอตเตอร์ ประวัติ
Graham Potter (Photo by Adrian DENNIS / AFP)
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช
ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง

เชลซีเพิ่งเปลี่ยนกุนซือใหม่ ดึง เกรแฮม พอตเตอร์ มาคุมแทนโทมัส ทูเคิ่ล ที่โดนปลด แต่คำถามก็คือ พอตเตอร์คือคนที่ใช่จริงหรือ ? เหมาะกับเชลซีอย่างที่เจ้าของทีม ท็อดด์ โบห์ลีย์ คิดไว้จริง ๆ ใช่ไหม ?

เกรแฮม พอตเตอร์ เป็นกุนซือหนุ่ม อายุ 47 ได้เครดิตมาจากการสร้างทีมไบรท์ตัน ให้ปักหลักมั่นคงในพรีเมียร์ลีก ทั้งที่เป็นทีมเล็ก ๆ ไม่มีซูเปอร์สตาร์ และไม่ (ค่อย) มีตังค์

พอตเตอร์ชดเชยความเสียเปรียบด้วยการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง ขายทีมเวิร์ก ขายความฟิต ทำให้นักเตะเล่นด้วยความมั่นใจ เล่นตามแท็กติกอย่างเคร่งครัด ไบรท์ตันของเกรแฮม พอตเตอร์ ไม่เคยสนใจคู่แข่ง แต่มีสมาธิเล่นในเกมของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้น

แล้วตัวเขาเองก็สร้างความแน่นด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของทีม ทำงานใกล้ชิดกับนักเตะ ไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ลูกน้องก็เลยรัก สู้เพื่อเขาอย่างสุดใจ

แต่นั่นคือชีวิตในทีมเล็ก ซึ่งจะต่างกันมากมายในทีมใหญ่อย่างเชลซี

เกรแฮม พอตเตอร์ ยังไม่เคยคุมสโมสรใหญ่ ที่ผ่านมา นอกจากไบรท์ตันแล้ว เคยทำทีมออสเตอร์ซุนด์ ในสวีเดน กับสวอนซี อีกแค่ 2 ทีม

การรับงานคุมเชลซี จึงเป็นเรื่องใหม่ ขึ้นลิฟต์มาไกลร่วม 10 ชั้น

เป้าหมายของเชลซี คือต้องเป็นแชมป์ หรืออย่างน้อยก็ต้องได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก เข้ารอบลึก ๆ แชมเปี้ยนส ลีก และถ้าจะให้สวย ก็ควรสอยถ้วยเอฟ เอ คัพ หรือคาราบาว คัพ มาประดับตู้โชว์ให้ได้ซักใบ

เจ้าของทีมใหม่ ท็อดด์ โบห์ลีย์ ลงทุนซื้อนักเตะไปเกือบ ๆ 300 ล้านปอนด์ ย่อมตั้งเป้าไว้สูง

แต่ปัญหาคือ บรรดานักเตะที่ท็อดด์ซื้อเข้ามา มันซื้อตั้งแต่ตอนโทมัส ทูเคิ่ล คุมทีม ไม่มีซักรายที่เป็นความต้องการ หรือเป็นสเป็กของเกรแฮม พอตเตอร์

เชลซี เท่าที่มีอยู่ในมือ จึงไม่ใช่ทีมของพอตเตอร์ แต่ก็ต้องใช้งานไปก่อนจนกว่าจะเปิดตลาดอีกทีเดือนมกราคม

ผมเองไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับเกรแฮม พอตเตอร์ แล้วยิ่งเห็นนัดแรกที่เขาคุมเชลซี เจอเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์กในแชมเปียนส์ ลีก จากที่ไม่ได้หวังอะไรก็ต้องบวกความรู้สึกเป็นห่วงเพิ่มเติมเข้าไปอีก

พอตเตอร์เล่นใหญ่ ผ่าทีมแบบไม่แคร์สื่อ ดรอป 2 กองหลัง ค่าตัวแพง เวสลีย์ โฟฟาน่า กับ คาลิดู คูลิบาลี่ แล้วจับราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงเล่นวิงแบ็กซ้าย !

เชลซีสู้น่าดู แต่เกมรับที่สับสน เปิดช่องให้คู่แข่งหลุดเข้าไปพังประตูได้ จบเกมเสมอกัน 1-1

บอลเจ๊ากัน ไม่ได้ ไม่เสีย แต่เกรแฮม พอตเตอร์ ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเหมือนกัน

การลองผิดลองถูกเป็นเรื่องเสี่ยงมากสำหรับทีมใหญ่ พลาดท่าขึ้นมา นอกจากโดนสื่อโจมตี ยังมีสิทธิโดนลูกทีมแอบแทงข้างหลัง เพราะคนเป็นกุนซือ บารมีไม่ถึงตั้งแต่แรก

การบริหารซูเปอร์สตาร์ คืองานหินของเกรแฮม พอตเตอร์ ยิ่งกว่านั้นยังต้องรับมือกับ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของทีมที่เป็นนายทุนเต็มตัว ใจร้อน ไม่น่าจะอดทนให้โอกาสใครได้นาน ๆ

แรงทั้งลูกน้องทั้งเจ้านาย น่าปวดหัวแทนนะครับ

ทางรอดของพอตเตอร์คือ ต้องรีบทำทีมให้ชนะเร็วที่สุด และดึงแฟนบอลมาเป็นพวกให้ได้

สองอย่างนี้ก็ไม่ง่ายอีกเหมือนกัน !