ช่างกลไฟนั่ล

AP Photo/Tatan Syuflana
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช
ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง

ฟุตบอลไทยล้มเหลวในซีเกมส์ที่กัมพูชา ก่อนไปตั้งเป้าคว้า 2 เหรียญทอง แต่กลายเป็นว่า ทั้งบอลชาย บอลหญิง แห้วรับประทานทั้งคู่

ทีมหญิงไทยได้เหรียญทองแดง เราแพ้เมียนมา 4-2 ในรอบรองชนะเลิศ

ส่วนทีมชาย เข้าชิงกับอินโดนีเซีย และโดนถล่ม 5-2 หลังจากต่อเวลา

นัดชิงเหรียญทองฟุตบอลชาย ไทยกับอินโดนีเซียจะถูกจดจำไปอีกนานในฐานะ “ช่างกลไฟนั่ล” สต๊าฟโค้ช ตีกันอุตลุด ในสนามก็มี 4 ใบแดง นักเตะไทยโดนไล่ออก 3 คน อินโดฯ 1 คน ทีมไทยจบเกมโดยมีผู้เล่นแค่ 7 คน เพราะ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ เจ็บโดนหามออก และใช้โควต้าเปลี่ยนตัวไปครบแล้ว

ถ้าไม่นับลูกตีเสมอ 2-2 ของ ยศกร บูรพา ในช่วงทดเวลา เกมนี้จัดว่าเป็นฝันร้าย ทีมไทยทำอะไรก็ผิดไปหมด

สวรรค์ก็ไม่เป็นใจ

ครึ่งแรก เราน่าจะได้เปรียบตัวผู้เล่น ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กระชากหลุดเดี่ยว โดนประตูอินโดฯ เออร์นันโด ออกมาทำฟาวล์ ลูกนี้เออร์นันโด สมควรโดนใบแดงนะครับ

อีกครั้ง ตอนทดเวลาครึ่งแรก พงศกร ตรีศาสตร์ ถูกเตะจนตัวลอยในเขตโทษ ทีมไทยต้องได้จุดโทษ แต่กรรมการก็ไม่ให้

ยิ่งกว่านั้น ลูก 2-0 ที่เราเสีย ก็เป็นลูกฉวยโอกาส กรรมการให้ดร็อปบอล ตามมารยาทอินโดนีเซียต้องเตะกลับมาให้ทีมไทยเล่น แต่กองหน้าอิเหนา รามาดาน ซานานต้า ดันโฉบมายิงเข้าประตูซะงั้น

จะบอกว่า เจ้าเล่ห์ ไร้สปิริต มันก็ใช่ แต่มองอีกมุม นักเตะเราควรมีสมาธิ พร้อมจะเล่นมากกว่านี้ ไม่ใช่โหม่งพลาด แล้วโดนคู่แข่งตามมาตวัดบอลเข้าประตูง่าย ๆ

สมาธิ คือสิ่งที่ทีมไทยขาดอย่างแรงในนัดชิงกับอินโดนีเซีย

เราโดนไล่เพรสจนเล่นเกมของตัวเองไม่ได้ กลางเก็บบอลไม่อยู่ โดนเตะแล้วโกรธ เกมรับเหม่อเสียประตูแบบไม่น่าเสีย

ช่วงท้ายอุตส่าห์ฮึดไล่ตีเสมอ 2-2 มีลุ้นในช่วงต่อเวลา แต่พอไปได้แค่นาทีเดียว ดันเสียประตูที่ 3 ตกเป็นรองอีกครั้ง

นักเตะเราหลุดจากเกม หลังจาก ยศกร บูรพา ยิง 2-2 แล้ว สต๊าฟโค้ชข้างสนามมีเรื่องกัน จุดนั้นคือหัวเลี้ยวหัวต่อที่อินโดนีเซียตั้งสติได้ดีกว่า แม้จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ

ทีมงานอินโดฯคิดว่ากรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาแล้ว ชนะแล้ว (โว้ย) แต่กลายเป็นตัวเองเสียฟรีคิก และเสียประตูตีเสมอแทน จากนั้นก็ตามมาด้วยมวยข้างสนามยกที่ 1

อินโดนีเซียน่าจะเป็นฝ่ายสมาธิหลุด แต่กลายเป็นทีมไทย

แล้วพอเราโดนยิง 3-2 ต่อด้วยมวยข้างสนาม ยก 2 สต๊าฟโค้ชกับนักเตะกรูเข้าใส่กัน ชุลมุนวุ่นวาย ….

นับจากนั้นนักเตะไทยก็ “เอาท์” ต่อกันไม่ติด ทั้งโมโห ทั้งล้า โดนไล่ออกเพิ่มอีก 2 คน, ฉัตรมงคลเจ็บโดนหามออก แต่หมดตัวเปลี่ยน สุดท้ายต้องเล่นแค่ 7 คน สู้กับอินโดนีเซีย 10 คน มันก็เลยเละ แพ้ 5-2 อย่างที่เห็น

เราแพ้เจ็บปวด แต่ที่ร้ายกว่าคือ ต้องยอมรับว่า แม้จะมีปัญหาหลายลูก แต่เกมเราก็แพ้เขาจริง ๆ

โค้ช อิสสระ ศรีทะโร จัดทีมไม่คลิก เปลี่ยนตัวไม่ละเอียด แถมคุมทีมงานไม่อยู่ ปล่อยให้อารมณ์พาไป

ผมเห็นใจนะครับ แต่โค้ชหระสมควรแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้

ทีมไทยชุด U-23 คืออนาคตของชุดใหญ่ นักเตะอย่าง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว อนันต์ ยอดสังวาลย์ ยศกร บูรพา ก็มีแววจะไปต่อได้

แต่เราต้องมีคนดูแลที่ดี เป็นคนที่ใช่มากกว่าที่เป็นอยู่