
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง
แมนฯยูไนเต็ด บอบช้ำหนักในฤดูกาลที่ผ่านมา จบอันดับ 15 ในลีก ต่ำสุดนับจากปี 1974 ที่ตกชั้นครั้งสุดท้าย
เข้าชิงยูโรป้าลีก ก็แพ้สเปอร์ส 1-0 โอกาสไปเล่นถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ลีก หายวับไปกับตา
ซีซั่นหน้า 2025-2026 ปีศาจแดงไม่มีบอลยุโรปให้เล่น ตกอยู่ใต้ร่มเงาทีมคู่ปรับ ทั้งแมนฯซิตี้ และลิเวอร์พูล อย่างเต็มรูปแบบ
แต่ล่าสุด โอมาร์ เบราด้า ประธานบริหารของสโมสร กลับกล้าประกาศว่า แมนฯยูไนเต็ดตั้งเป้ากลับมาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในปี 2028 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
แฟนบอลฟังแล้ว มีทั้งตกใจ และขบขัน
ผีที่ตกต่ำดำดิ่งจะเป็นแชมป์ลีก ภายใน 3 ปีได้ยังไง ?
เป้าหมายของซีอีโอแมนฯยูฯ คือส่วนหนึ่งของ “โปรเจ็กต์ 150” ฉลองครบรอบ 150 ปีของสโมสร
ยูไนเต็ดจะอายุครบ 150 ปีเต็ม ในปี 2028 แน่นอนว่าสโมสรกะฉลองใหญ่ ให้สมกับการเป็นหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีแฟนบอลมากที่สุดในโลก
ไม่มีอะไรสวยหรูไปกว่าการฉลองด้วยถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก
แมนฯยูฯคว้าแชมป์ลีก หลังสุดตั้งแต่ปี 2013 เป็นแชมป์ส่งท้ายของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
หลังจากนั้น ผีเว้นช่วงมา 12 ปีเต็ม, ดีที่สุดคือได้รองแชมป์ 2 ครั้ง ฤดูกาล 2017-2018 ยุคโชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม รวมทั้งฤดูกาล 2020-2021 ที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นกุนซือ
2 ปีนั้นได้รองแชมป์ก็จริง แต่คะแนนห่างทีมแชมป์ แมนฯซิตี้ 19 กับ 12 คะแนน
ฤดูกาลล่าสุด แมนฯยูฯคะแนนห่างแชมเปี้ยน ลิเวอร์พูล ถึง 42 แต้ม ภายใน 3 ปีจะถมช่องว่างขนาดนี้ขึ้นมาเป็นแชมป์อีท่าไหน ?
เลสเตอร์อาจจะเคยสร้างปาฏิหาริย์ แปลงร่างจากทีมหนีตกชั้นฤดูกาล 2014-2015 ก้าวขึ้นเป็นแชมป์ในฤดูกาลต่อมา
แต่นั่นคือ “ครั้งหนึ่งในชีวิต” เป็นประวัติศาสตร์ที่ยากจะทำซ้ำ ไม่ว่ากับทีมไหนก็ตาม
เพราะปีที่เลสเตอร์คว้าแชมป์ นอกจากทีมจิ้งจอกเล่นดีผิดหูผิดตา บรรดายักษ์ใหญ่ในลีก ไม่ว่าแมนฯซิตี้ ลิเวอร์พูล แมนฯยูฯ หรือเชลซี ล้วนต่ำกว่ามาตรฐานกันหมด
ซิตี้ได้ที่ 4, หงส์ที่ 8, ผีที่ 5, เชลซีหล่นไปอยู่ที่ 10
แต่เท่าที่เห็นในซัมเมอร์ปีนี้ ยักษ์ใหญ่ทุกทีมเสริมทัพกันอย่างเมามัน นักเตะหลายคนที่ซื้อมาสามารถเป็นอนาคตของทีมไปอีก 6-7 ปี สบาย ๆ
เรื่องที่ลิเวอร์พูลกับซิตี้จะชะลอตัว รอให้แมนฯยูฯแซงภายใน 3 ปี จึงยากกก มาก
เว้นแต่ว่าปีศาจแดงจะพัฒนาแบบก้าวกระโดด
ฤดูกาลที่จะถึงนี้ ติดโควตาได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีก
อีก 2 ปีได้ลุ้นแชมป์, พอปีต่อไป 2028 ก็เป็นแชมป์ ตามเป้าของโปรเจ็กต์ 150
ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในโลกลูกหนัง
แต่ทีมที่จะเป็นแชมป์ ล้วนมีปัจจัยสำคัญคือ ความสม่ำเสมอ
ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุด, เป็นจุดที่แมนฯยูฯ ของกุนซือ รูเบน อโมริม มีอยู่น้อยที่สุด
โปรเจ็กต์ 150 จึงถูกมองไม่ต่างจากโครงการในฝันของบอร์ดแมนฯยูฯ
ฝัน, แล้วก็ตื่นขึ้นมาเผชิญความเป็นจริง