ฟุตบอลโลก 2018 จบลงด้วยชัยชนะของฝรั่งเศส ขณะที่บรรดานักเตะก็มีทั้งซูเปอร์สตาร์ที่แจ้งเกิด และแจ้งดับพอ ๆ กัน คนที่เกิดอย่างเจิดจ้า ย่อมเป็นคีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ กองหน้าวัย 19 ปี ของทีมแชมป์เจ้าของตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
เอ็มบัปเป้ยังไม่ครบเครื่องสมบูรณ์แบบ แต่เท่าที่เห็นในบอลโลก ก็ทำให้แฟน ๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับความเร็ว เทคนิค และความเฉียบขาด ยิงไป 4 ประตู รวมทั้งประตูปิดท้ายในนัดชิงชนะเลิศ ที่หวดโครเอเชีย 4-2
หนุ่มเอ็มบัปเป้กลายเป็นนักเตะวัยรุ่น อายุไม่ถึง 20 คนที่ 2 ที่ยิงได้ในรอบชิงบอลโลก คนแรกคือ เปเล่ตอนอายุ 18 เหมาคนเดียว 2 ประตูให้บราซิลถล่มสวีเดน 5-2 เมื่อปี 1958
เอ็มบัปเป้ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมากเมื่อเทียบกับเปเล่ แต่ด้วยของดีที่มีอยู่ อนาคตข้างหน้าของเขาก็เป็นเรื่องน่าติดตามอย่างที่สุด
อายุแค่ 19 ยังเล่นบอลโลกได้อีก 3 สมัยสบาย ๆ แล้วการเล่นให้ทีมใหญ่ระดับปารีส แซงต์ แชร์แมง (หรืออาจจะต่อด้วยเรอัล มาดริดในอนาคต) ก็ยิ่งทำให้อยู่ในกระแส มีโอกาสพัฒนาฝีเท้าได้อีกมากมาย
เอ็มบัปเป้อีก 4 ปีข้างหน้า จะเก่งกว่าเอ็มบัปเป้ตอนอายุ 19 แน่นอน แล้วคิดดูว่าถ้าอัพเกรดไปเรื่อยจนอายุ 27 หมอนี่อาจจะเป็นเทพยิ่งกว่าโรนัลโด้ หรือเมสซี่!
เรื่องราวของคีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ คือความสดใสที่ใคร ๆ ก็ชื่นชม ต่างจากภาพของเนย์มาร์ดาวดังบราซิลที่ชีวิตเปลี่ยนอย่างแรง
เนย์มาร์ไม่ใช่ไม่เก่ง บอลโลกหนนี้ก็ยิงได้ 2 ประตู แต่แทนที่คนจะจำในฐานะยอดนักเตะ กลับพลิกตาลปัตรกลายเป็นตัวตลกสายฮาไปซะแล้ว
สิ่งที่แฟน ๆ นึกถึงเขาในบอลโลก 2018 คือ จอมดีดดิ้นกลิ้งเกินจริง แอ็กติ้งระดับดาราออสการ์ ซึ่งจะว่าไปก็ค่อนข้างโหดร้าย เพราะเจ้าตัวก็โดนเตะจริง โดนทำฟาวล์จริงเป็นส่วนใหญ่ แต่พอ “เล่นเยอะ” เกินงาม ภาพลักษณ์ก็เลยเพี้ยนไปอย่างที่เห็น
จากว่าที่ฮีโร่กลายเป็นจำอวดราคาถูก โดนคนล้อเลียนทั้งโลก เนย์มาร์จึงเป็นดาวดับที่น่าผิดหวังที่สุด ผมเสียดายพรสวรรค์ แต่ถ้ายังไม่ปรับทัศนคติในการเล่นบอล เนย์มาร์ก็จะยิ่งเสื่อม ยิ่งเสียของ
ลงสนามทีไร คนตั้งตารอว่าเมื่อไหร่มันจะกลิ้ง…นี่คือเรื่องจริงที่โคตรเศร้า
