หงส์ยังไม่ตาย

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ลุ้นแชมป์กัน 3 ทีม คือ แมนฯ ซิตี้ ลิเวอร์พูล เชลซี หรือหากดูกันยาว ๆ ก็เก็งกันว่า สองทีมแรกน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สูสี ได้เบียดกันมากที่สุด

แต่ตอนนี้ มันเหมือนกับแมนฯ ซิตี้ กลายเป็นไร้เทียมทาน ยิ่งเล่นยิ่งตัวใหญ่ จนเริ่มมีคำถามว่า ใครจะไปหยุดเรือใบสีฟ้าได้ (วะ)

ซิตี้ ชนะมา 7 นัดรวด รวมทุกรายการ ยิงไป 26 ประตู แม้ว่าคะแนนในลีกจะนำลิเวอร์พูลแค่ 2 แต้ม แต่ความสด ความลงตัว ต่างกันชัดเจน กระทั่งแฟนหงส์เองก็ยังยอมรับว่า อาจจะไล่ลำบาก

ซิตี้เหนือกว่าจริง ๆ แหละ แต่ไอ้การเหนือชั้นเร็วทุกอย่างดูดีมากในช่วง 12 นัดแรก ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงกับเปิดแชมเปญฉลอง หรือมั่นใจจนไม่อยู่กับความเป็นจริง

คนอย่างเป๊ปรู้ดีว่า ฟอร์มสุดยอดช่วงเดือนพฤศจิกายนแทบจะไม่มีผล ทุกอย่างยังเปิดกว้าง และต้องเน้นเรื่องความสม่ำเสมอเป็นพิเศษ

ลิเวอร์พูลถึงเป็นรอง แต่ก็ตามหลัง 2 คะแนน ที่สำคัญคือ หงส์แดง ยังมีศักยภาพที่สามารถยกระดับเกมขึ้นมาได้อีก

ผมเองก็เชื่อว่า สองทีมนี้ ไม่น่าทิ้งกันขาด แต่แน่นอนว่า ลิเวอร์พูลต้องรีบแก้ปัญหาของตัวเองโดยด่วน ปัญหาของหงส์แดงคือ การเป็นทีมแข็งนอก อ่อนใน

ดูฉากหน้า ลิเวอร์พูลแข็งแกร่ง ดุดัน เล่นบอลเน้นความฟิต ความเร็ว นักเตะโคตรอึด วิ่งไล่บอลไม่มีหมด เพรสซิ่งกันอุตลุด

เรื่องพวกนี้เหมือนภาพลวงตา เพราะความจริงนักเตะหงส์จิตใจยังไม่นิ่ง โดนโค้ชบิลท์มาก ๆ ก็เกร็งจนลน หลายนัดพยายามมากเกินไป จนเล่นไม่เป็นธรรมชาติ จังหวะขาด ๆ เกิน ๆ

ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะลิเวอร์พูลไม่เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยังปรับสภาพให้เป็นผู้ท้าชิงได้ไม่ดีนัก ไม่เหมือนฝั่งแมนฯ ซิตี้ ที่เล่นสบาย เนื่องจากเคยผ่านมาหมดแล้ว ยิ่งหงส์แดงไม่มีผู้นำที่แท้จริงในสนามด้วย งานก็ยิ่งยาก

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นกัปตันที่โอเค แต่ก็ลงบ้างไม่ลงบ้าง แล้วด้วยความที่ฝีเท้าไม่ใช่เวิลด์คลาส จะให้นำทีมได้เต็มร้อยก็คงจะขอกันมากเกินไป พอเล่นบอลเครียด กองหน้าฟอร์มตก แถมขาดลูกพี่ ฟอร์มของลิเวอร์พูลเลยแกว่งอย่างที่เห็น


แต่ในเมื่อยังมีเวลาให้แก้ไข มีเงินให้ซื้อตัวเพิ่ม ช่วงเปิดตลาดรอบ 2 โอกาสของหงส์แดงย่อมเปิดรออยู่เสมอ ถ้าหากองหน้ามาเสริม และไม่โดนแมนฯ ซิตี้ทิ้งเกิน 7 แต้ม ทุกอย่างยังเป็นไปได้นะครับ