ลูก้า โมดริช ยอดมิดฟิลด์ เรอัล มาดริด และทีมชาติโครเอเชีย คว้าบัลลงดอร์ ได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 ส่งท้ายปีทองของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
ปีนี้โมดริชพาเรอัลคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยน’ส ลีก นำโครเอเชียเข้าชิงฟุตบอลโลก รางวัลส่วนตัวก็กวาดหมดทั้งโกลเด้นบอล นักเตะยอดเยี่ยมบอลโลก นักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ล่าสุดยิ่งมาได้บัลลงดอร์ยิ่งย้ำชัดเจนว่า เขาคือเบอร์หนึ่งอย่างแท้จริง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ความสำเร็จของลูก้า โมดริช ยังถูกมองว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ให้ลูกหนังโลก บอกลายุคทองของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับลีโอเนล เมสซี่ เพียงเท่านี้
โรนัลโด้กับเมสซี่ผลัดกันคว้าบัลลงดอร์มา 10 ปีเต็ม แต่ต่อไปน่าจะหมดช่วงผูกขาด ถึงเวลาที่ซูเปอร์สตาร์คนใหม่ ๆ จะก้าวขึ้นมาแทนหรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่สู้กันอยู่สองคนแบบเมื่อก่อน
ลูก้า โมดริช คือหัวหอกผู้ทลายกำแพง จากนั้น
ก็คงถึงคิวคนรุ่นใหม่อย่าง คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้, แฮรี่ เคน, เอเดน อาซาร์ หรือ เควิน เด บรอยน์ สลับกันไป
ถือเป็นความแปลกใหม่ที่วงการฟุตบอลเปิดกว้างที่สุดในรอบหลายปี ทุกคนมีโอกาสแจ้งเกิด และโอกาสนั้นก็สูสีจนเลือกแทบไม่ถูก
อย่างปีนี้ ลูก้า โมดริช ได้ไปก็เหมาะสมดี ยิ่งมีความสำเร็จของทีมช่วยส่งก็ยิ่งได้เปรียบ
แต่โมดริชก็เล่นแบบนี้มาหลายปี เด่นมาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับสเปอร์ส แฟน ๆ ที่ตามกันมาตลอดจึงไม่รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เพราะมันเก่งมาตั้งนานแล้ว
ที่ได้บัลลงดอร์ มุมหนึ่งอาจเป็นเพราะคนมองหาอะไรใหม่ ๆ ซึ่งไม่ใช่ “คู่เดิม” สุดท้ายก็มาลงที่ โมดริช ซึ่งดูลงตัวที่สุดทั้งวุฒิภาวะและความสำเร็จ
มันสนุกตรงที่ว่า อาการค้นหาของใหม่จะยังมีต่อไป เรื่องที่จะวนกลับมาหาโรนัลโด้กับเมสซี่คงยากมาก ๆ
โลกลูกหนังกำลังกลิ้งไปข้างหน้า…อย่างน่าตื่นเต้น !