ไทยลีกยังไม่เปลี่ยน

ฟุตบอลไทยลีกเริ่มเตะเลกสองกันตั้งแต่สัปดาห์นี้ ถ้ามองจากความคึกคักที่แต่ละทีมดึงตัวใหม่ ๆ เข้ามาเสริมกันอุตลุด ก็คาดว่าการลุ้นแชมป์และหนีตกชั้นคงสนุกเหมือนเดิม แม้ว่าสุดท้ายแล้ว กลุ่มหัวตารางก็ยังเป็นหน้าเดิม ๆ อยู่ดี

บุรีรัมย์ แชมป์เก่า อาจจะเก่งน้อยลง จากการเสียดาวยิง ดิโอโก้ แถมปีนี้ดันดาวรุ่งขึ้นมามีบทบาทหลายคน ทำให้เก็บ 3 แต้มได้ยากกว่าเดิม ความเก๋า ความเหนือชั้น ก็หายไปพอสมควร

แต่ถึงมาตรฐานตก มันก็ยังดีพอสำหรับการลุ้นแชมป์ จากที่ออกสตาร์ตแบบติ๋ม ๆ ทีมปราสาทสายฟ้าค่อย ๆ อัพเกรด เร่งเครื่องตัวเองจนแย่งจ่าฝูงจากการท่าเรือได้สำเร็จ แล้วเมื่อบุรีรัมย์ขึ้นนำ ก็รู้กันอยู่ว่าเอาลงยาก ถ้าทีมอื่นไม่สม่ำเสมอจริง ๆ รับรองว่าเหนื่อย

ความสม่ำเสมอ ความต่อเนื่องในเกม คือ ปัญหาที่บรรดาทีมผู้ท้าชิงของบุรีรัมย์เป็นมาตลอด อย่างฤดูกาลนี้ ไม่ว่า เชียงราย, แบงค็อก หรือการท่าเรือ ต่างก็ยืนระยะไม่ค่อยดีพอ ๆ กัน

แบงค็อกช่วงแรกปืนฝืด ยิงประตูไม่ค่อยได้ เพิ่งจะมาเข้าที่ชนะรวดใน 4 นัดหลังสุด เลยดูอุ่นใจกว่าเชียงราย ซึ่งเล่นตกไปเยอะ บางนัดนักเตะเสียสมาธิ หันมาเล่นคนแทนก็มี

ส่วนอดีตจ่าฝูง การท่าเรือ รายนี้เกมรุกไม่น่าห่วง เหลือแค่เกมรับยังหลุด ๆ รั่ว ๆ ถ้าแก้ปัญหาไม่ตก โอกาสเบียดลุ้นแชมป์กับบุรีรัมย์ไปยาว ๆ ก็คงจะลำบาก

บอกตามตรงว่าไทยลีก ปีนี้ ผมค่อนข้างผิดหวังกับทีมใหญ่ นี่ยังไม่นับเมืองทอง ที่วูบถึงขนาดหลุดไปกองอยู่ท้ายตาราง โชคดีที่กุนซือใหม่ อเล็กซานเดร กาม่า น่าจะช่วยกอบกู้ได้ เรื่องที่ทีมกิเลนจะตกชั้นจึงไม่ซีเรียสอย่างที่เคยกลัวกัน

แต่ถ้าจะเอาความประทับใจ คงต้องยกให้ทีมเล็ก ๆ อย่าง สมุทรปราการ กับน้องใหม่ ตราด เอฟซี สมุทรปราการ ซิตี้ หรือทีมพัทยา ยูไนเต็ด เดิม เล่นบอลดีมาพักใหญ่ ๆ แล้ว นักเตะถึงจะไม่ใช่เกรดเอ แต่ทีมเวิร์กแจ่ม เล่นตามแผนเก่ง จึงขโมยแต้มจากทีมใหญ่ได้เป็นประจำ

ส่วนตราดที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา มีจุดแข็งตรงโค้ช พยงค์ ขุนเณร พยงค์ไม่ดังเพราะไม่ทำตัวเด่น แต่พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในโค้ชไทยที่เก่งที่สุด ผลงานน่าพอใจมาตลอด

ตราดกับสมุทรปราการคือสีสัน ทำให้ไทยลีกยังน่าสนุก แม้ว่าแชมป์จะยังผูกขาดเหมือนเดิมก็ตาม