แชมป์แล้ว…แชมป์อีก

Photo by Oli SCARFF / AFP
คุยกับ เอกราช เอกราช เก่งทุกทาง
ลิเวอร์พูลรับแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ เดอะค็อป แฟนหงส์ทั่วโลกพร้อมใจกันเฉลิมฉลอง เป็นความสุขที่ทำให้ลืมเงามืดของโควิด-19 ไปชั่วคราว

ความสำเร็จของลิเวอร์พูล ช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนมากมาย อย่างน้อย ปี 2020 ก็ไม่ได้มีแต่ข่าวร้ายไปซะหมด
แล้วถ้ามองไปข้างหน้า มันก็มีความหวังใหม่ ๆ ให้แบ่งปันจากหงส์แดงชุดนี้ รออยู่อีกพอสมควร

กุนซือ เยอร์เก้น คล็อป เหลือสัญญา 4 ปี, 4 ปีนี้ลิเวอร์พูลมีศักยภาพพอจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้อย่างน้อยที่สุดอีก 1 ครั้ง นอกเหนือจากนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาของทีมคู่แข่ง หรือการอัพเลเวลของเด็กดาวรุ่งหงส์แดงเอง

ในยุคโควิด-19 ที่ธุรกิจลูกหนังเสียผลประโยชน์มหาศาล สิ่งสำคัญคือ ความต่อเนื่อง ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้มากที่สุด

ซัมเมอร์นี้ ถ้าลิเวอร์พูลจะซื้อตัวใหม่ ก็อาจจะดึง ติอาโก้ อัลกันตาร่า จากบาเยิร์น มิวนิก มาแค่คนเดียว ที่เหลือใช้ชุดเดิมที่ยังต่อยอดได้ และพยายามดันคนรุ่นใหม่อย่าง เคอร์ติส โจนส์, นีโก้ วิลเลี่ยมส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ให้ขึ้นมามีบทบาทในทีมชุดใหญ่มากขึ้น

ติอาโก้ ค่าตัวพอสู้ไหว น่าจะต่อรองกับบาเยิร์นจบในราคา 30 ล้านปอนด์ต้น ๆ ตัวนี้นอกจากเทคนิคแพรวพราว ยังเล่นได้หลายตำแหน่ง เด่นตรงการจ่ายบอลยาว ซึ่งหงส์แดงต้องการอยู่พอดี

ความเก๋าของติอาโก้จะช่วยทีมได้เยอะ ยิ่งถ้ามองว่าบรรดาตัวเสริม ทั้ง นาบี้ เคอิต้า กับ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-เชมเบอร์เลน ยังเล่นไม่สม่ำเสมอทั้งคู่ ลิเวอร์พูลก็สมควรมี “ผู้ใหญ่” เข้ามาช่วยประคองอีกซักคน

ฤดูกาลหน้า แมนฯซิตี้อาจถูกยกให้เป็นเต็ง 1 แต่หงส์แดงยังล่าแชมป์ต่อเหมือนเดิมด้วยระบบที่ลงตัว ทีมเปลี่ยนแปลงน้อย นักเตะได้เล่นด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ความเข้าใจเกมยิ่งพัฒนาขึ้นกว่าเดิม โม ซาล่าห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ยังเก่งกว่านี้ได้ทั้งคู่นะครับ

ลิเวอร์พูลกับแมนฯซิตี้ยังเป็นสองทีมที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะทั้งคู่มีโครงสร้างที่ลงตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมาก ต่างจากเชลซีที่ซื้อตัวใหม่เยอะ กว่าจะหลอมให้เข้ากัน คงต้องใช้เวลาปรับพอสมควร

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้า ถ้าหลายอย่างเป็นเรื่องซ้ำ ๆ ไม่ค่อยต่างจากฤดูกาลนี้ ก็ไม่ถือว่าแปลก ของใหม่อาจมีแค่ลุ้นแชมป์สูสีขึ้น แต้มใกล้กันมากขึ้น แต่สุดท้ายก็อาจจะจบเหมือนเดิม