ฮีโร่ อาร์เตต้า

Catherine Ivill/Pool via AP

คอลัมน์ คุยกับ เอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง

ทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์เอฟ เอคัพ ด้วยการพลิกชนะเชลซี 2-1 เป็นแชมป์ถ้วยนี้ครั้งที่ 14 และจบฤดูกาลแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ที่สำคัญ อาร์เซน่อลยังพิสูจน์ตัวเองได้สำเร็จว่าเป็นทีมชั้นดี มีอนาคต ไม่ใช่ยักษ์หลับแห่งลอนดอน อย่างที่หลายคนมอง


ฟอร์มช่วงท้ายฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ที่เอาชนะแชมเปี้ยน ลิเวอร์พูล, บุกชนะหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน รวมทั้งรอบชิงเอฟ เอ คัพ ที่ล้มเชลซี บอกให้รู้ว่า กุนซือมิเคล อาร์เตต้า เริ่มจับทางถูก เจอสูตรสำเร็จที่เหมาะสมกับทีม แล้วสูตรสำเร็จนั้นก็รวมถึงตัวอาร์เตต้าเองด้วย

Photo by Catherine Ivill / POOL / AFP


กุนซือชาวสเปนกล้าลองอะไรใหม่ ๆ ไม่ยึดติดกับของตาย นักเตะถึงดังและเก๋า แต่ถ้าเล่นไม่ดีก็โดนดรอป เปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง คนใหม่ ๆ ก้าวขึ้นมามีบทบาทแทน

อาร์เตต้าสร้างทีมของตัวเอง โดยใช้คนรุ่นใหม่อย่าง มาร์ค เทียร์นี่, ดานี่ เซบายอส, บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ผสมผสานกับรุ่นเดอะ ดาวิด ลุยซ์, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เคาะออกมาเป็นสูตรที่กลมกล่อม กำลังดี

อาร์เซน่อลเล่นบอลดุดัน แต่ไม่โง่ ความฟิตของเด็กดาวรุ่งทำให้เกมเร็วและหนัก ขณะที่พวกตัวเก๋าช่วยเติมความเหนือ เพิ่มความพิเศษ ไม่ให้เกมดูดาด ๆ หรือมีแต่กำลัง

กุนซืออาร์เตต้าเองก็วางแผนเก่ง ไม่เสียแรงที่เคยเป็นผู้ช่วย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่ถึง 4 ปี อาร์เตต้าวางแท็กติกให้อาร์เซน่อล ชนะทีมที่ดีกว่าได้หลายนัด ทีมปืนใหญ่ของเขาอาจจะเล่นบอลไม่สวย ไม่สนุก เหมือนยุคอาร์แซน เวงเกอร์ แต่เป็นทีมที่ถูกสร้างให้เล่นเพื่อชนะ คล้าย ๆ ยุคกุนซือจอร์จ เกรแฮม

นัดชิงเอฟ เอ คัพ ที่ชนะเชลซี คือตัวอย่างชัดเจน เชลซีของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ถนัดเกมบุก เปิดหน้าแลกอย่างเดียว ขณะที่อาร์เซน่อลของ มิเคล อาร์เตต้า สู้ด้วยแท็กติก เน้นเหนียว เอาชัวร์ รู้จักรอจังหวะ และไม่ใช้โอกาสเปลือง

ไอ้ปืนใหญ่หลากหลายกว่า ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยแผนการเล่น ก่อนจะเฉือนชนะจากความเหนือชั้นของรุ่นใหญ่อย่าง โอบาเมยอง

เป็นการชนะทั้งที่ภาพรวมเป็นรอง อาร์เซน่อลไม่น่าสู้ได้ แต่ก็สู้จนชนะเพราะกุนซืออาร์เตต้า เก่งกว่าแฟรงค์ แลมพาร์ด ของเชลซี!


จับตาทีมปืนใหญ่ให้ดี ฤดูกาลหน้าอาจยังเป็นแชมป์ลีกไม่ไหว แต่มีสิทธิทะลุถึงท็อปโฟร์