กลับสู่ความจริง

คอลัมน์ คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง

โควิด-19 ทำให้โลกเปลี่ยนไป ฟุตบอลไทยก็เจอภาวะฟองสบู่แตก ต้องปรับตัวมหาศาล และแทบจะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ หลังจากเสียผลประโยชน์ก้อนโตจากทรูวิชั่นส์ จนไทยลีกสั่นสะเทือน

สมาคมฟุตบอลฯต้องกู้เงินมาจัดบอลลีก ทีมส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ต้องปรับโครงสร้าง ทั้งลดเงินเดือน ลดคนหลายทีมในลีกรองถึงขั้นขอพักแข่ง เพราะไม่มีตังค์ทำต่อ

อย่าไปมองทีมส่วนน้อยที่ยังมีเงินทุ่มซื้อนักเตะดัง พร้อมจ่ายเงินเดือนแพง ๆ ได้ เพราะดูทั้งลีกแล้วมีอยู่แค่ 2 ทีมคือ ท่าเรือกับบีจีปทุม สองทีมนี้ข้อยกเว้นเหมือนอยู่ในลีกของตัวเอง ไม่อยู่ในความเป็นจริงของฟุตบอลไทย

ถ้าไทยลีกปีนี้หรือลากยาวไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า มีแค่ท่าเรือและบีจี แย่งแชมป์สนุกกันอยู่แค่สองทีม ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป ในเมื่อบอลไทยเข้าสู่ยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กเต็มรูปแบบ มันก็ย่อมออกมาแนวนี้

ทีมอื่นทำอะไรไม่ได้ นอกจากรับสภาพ ค่อย ๆ พัฒนานักเตะดาวรุ่งขึ้นมาใช้งาน พัฒนาระบบแมวมองหาช้างเผือกฝีเท้าดีมาปั้นเอาเอง เพราะมันไม่มีทางเลยที่จะหาเงินมาทุ่มซื้อตัวแข่งกับเขา หรือถึงจะหาได้ก็ไม่ควรทำ

โควิด-19 ทำร้ายระบบรวมพังยับ แต่ก็ทำให้ทุกฝ่ายได้ทบทวนตัวเอง กลับสู่เบสิก กลับสู่ความจริงที่เป็นเนื้อแท้ของฟุตบอลไทย

ความจริงที่ว่าก็คือ ลีกไทยไม่ได้ร่ำรวย สโมสรอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งเงินสปอนเซอร์ พึ่งเงินนายทุนเป็นหลักทั้งนั้น

ค่าเหนื่อยที่ประเคนให้นักเตะซูเปอร์สตาร์เดือนละหลายแสนบาท คือความผิดพลาด เพราะเงินที่เอามาจ่ายเป็นเงินจาก “ข้างนอก” ไม่ใช่เงินสโมสร แล้วมันจะยั่งยืนได้ยังไง

ถึงเวลาที่บอลไทยต้องอยู่อย่างพอเพียง ถ้าไม่อยากล้มก็ต้องอดทน และติดดิน กรณีนี้รวมถึงการจ้าง อากิระ นิชิโนะ เป็นโค้ชทีมชาติด้วย

นิชิโนะโดนลดเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ แต่สมาคมฟุตบอลฯ ก็ยังต้องจ่ายให้ถึงเดือนละหนึ่งล้านสามแสนกว่าบาท
งบฯจัดไทยลีกยังไม่มี สมาคมต้องไปกู้เงินมาช่วย แล้วจะจ้างนิชิโนะต่อเดือนละเป็นล้านได้หรือ ?

ในเมื่อเกมทีมชาติทุกชุด ถูกเลื่อนไปแข่งปีหน้าทั้งหมด ถึงนิชิโนะกลับมาเมืองไทยก็แทบไม่มีอะไรทำ อาจจะไปดูฟอร์มนักเตะบ้าง ที่เหลือคือนอนกินเงินเดือนสบาย ๆ

สภาพตอนนี้ต้องปรับกันใหม่หมด โค้ชนิชิโนะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ในเมื่อสมาคมถังแตก มันก็จ้างโค้ชแพง ๆ ต่อไม่ไหวหรอก

จำเป็นต้องมีคนเสียสละเพื่อจะอยู่กับความเป็นจริง