ยกให้บีจี

คุยกับ เอกราช : เอกราช เก่งทุกทาง

ฟุตบอลไทยลีกปีนี้ อาจเป็นปีที่มีช่องว่าง ทิ้งห่างกันมากที่สุดระหว่างทีมลุ้นแชมป์กับทีมอื่นที่เหลือ และถึงจะเล่นไปแค่ 9 นัด ก็มองไม่ออกนะครับว่า บีจีปทุม ยูไนเต็ด จะพลาดแชมป์ไปได้ยังไง

บีจีผงาดนำจ่าฝูงด้วยสถิติชนะ 7 เสมอ 2 เกมยาก ๆ ที่เจอบุรีรัมย์, แบงค็อก, ท่าเรือ เอาชนะได้หมด แบบไม่เสียประตู ฟอร์มรวม ๆ ก็เห็นชัดว่าแข็งแกร่ง สมเป็นเต็ง 1 ทุกจุด

“เดอะ แร็บบิท” คือหนึ่งในไม่กี่ทีมของไทยลีกที่ไม่สะเทือน เพราะพิษโควิด เนื่องจากแบ็กอัพแข็งโป๊ก ได้รับการสนับสนุนจากนายทุนใหญ่ค่ายภิรมย์ภักดี มีงบฯซื้อและจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะแบบที่ทีมอื่นทำไม่ได้

บีจีซื้อเยอะ แต่ที่สำคัญ คือซื้ออย่างฉลาด ตัวใหม่ยกระดับทีมได้ทันที วิกเตอร์ คาร์โดโซ่ กับ อันเดรส ตุนเยซ เข้ามาจับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่แกร่งที่สุดในลีก เพิ่งเสียประตูแค่ 2 ลูก

แดนกลางมีทั้ง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย ครบเครื่องทั้งรุก-รับ โดยเฉพาะสารัช เป็นทั้งหัวใจและผู้นำของทีม ยิ่งอยู่ยิ่งเก๋า อ่านเกมขาด แม้จะตัวเล็ก ขาดลูกหนัก แต่ใช้มันสมองมากลบจุดด้อยได้แบบเนียน ๆ

จุดเดียวในตอนนี้ที่บีจียังไม่พีกเท่าไหร่คือ กองหน้า แต่ก็ไม่มีใครซีเรียส เพราะหลังปีใหม่กำลังจะคว้า ธีรศิลป์ แดงดา กลับจากเจลีก มาช่วยยิง แถมมีข่าวลือว่าอาจจะได้ดิโอโก้ อดีตหัวหอกบุรีรัมย์มาด้วยอีกคน

กรณีของธีรศิลป์น่าจะชัวร์นะครับ แต่ดิโอโก้ผมไม่แน่ใจ เพราะถึงสู้ค่าเหนื่อยไหวก็ไม่ควรเหมาแพ็กคู่ สองคนนี้เล่นด้วยกันไม่ได้หรอก นอกจากทับตำแหน่งกันเองยังทำให้ทีมเสียสมดุลไปเปล่า ๆ

บีจีทำทีมฟุตบอลเป็น โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน กับ ง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ผู้อำนวยการสโมสรคือ อดีตมิดฟีลด์
ทีมชาติทั้งคู่ รู้ดีว่าจะผสมสูตรสำเร็จให้ลงตัวได้ยังไง

ดุสิตปีก่อนพาทีมบีจีเลื่อนชั้น มีเครดิตในระดับหนึ่ง ส่วนสุรชัย ง้วน ผมเคยทำรายการทีวีด้วยเมื่อหลายปีก่อน รู้ว่าเป็นคนตรง ขยัน ตั้งใจทำงานมาก ๆ สองคนนี้จับมือกันแล้ว เชื่อว่าเอาทีมอยู่ เพราะมีทั้งฝีมือและจริงใจกับนักเตะ

บีจีอาจจะใช้เงินสร้างทีม แต่ก็เน้นเรื่องสมดุล เน้นเรื่องการบริหาร ดูจากเกมในสนามจะเห็นว่าถึงดาวดังคับคั่ง แต่เล่นกันด้วยทีมเวิร์ก ไม่มั่ว


ทีมงานสตาฟโค้ชก็วางบทบาทชัดเจน ช่วยกันทำงานอย่างมีวินัย ถ้าบีจีเป็นแชมป์ ไม่ใช่เพราะรวยอย่างเดียว แต่ใช้คนเป็นด้วย