คอลัมน์คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง
ดีเอโก้ มาราโดน่า ช็อกโลกเป็นครั้งสุดท้าย จากไปด้วยวัย 60 ปี มาราโดน่ามีอาการหัวใจวาย เสียชีวิตที่บ้านในบัวโนสไอเรส ปิดตำนานอันเปี่ยมสีสันไปตลอดกาล
มาราโดน่าใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยง คาบลูกคาบดอกมาตลอดก็จริง แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะตายตอนนี้ “เสือเตี้ย” เพิ่งจะผ่าตัดรักษาอาการลิ่มเลือดอุดตันในสมองเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน การผ่าตัดประสบความสำเร็จ คนไข้กลับบ้านได้ คนใกล้ตัวต่างก็โล่งอก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
แต่จู่ ๆ กลับหัวใจวายเฉียบพลัน จากไปแบบไม่ทันร่ำลา
มุมหนึ่งทุกคนช็อก แต่ลูกผู้ชายอย่างมาราโดน่า ก็ใช้ชีวิตที่คาดเดาไม่ได้ ไปสุดทางทั้งบวกทั้งลบ และพร้อมจะแตกหักมาตลอด
เจ้าตัวยังเคยพูดเองว่า คนอย่างเขาไม่มีสีเทา ถ้าไม่ขาวก็ดำไปเลย
ดีเอโก้ มาราโดน่า คือไอคอน เป็นทั้งอัจฉริยะลูกหนัง และขี้ยา บ้าระห่ำในตัวคนเดียว
ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องพรสวรรค์ในฝีเท้า มาราโดน่าสูงแค่ 165 ซม. แต่แข็งแรง ปราดเปรียว เทคนิคสูงส่งดุจเทพเจ้า พาทีมนาโปลีคว้าแชมป์เซเรีย อา อิตาลี 2 สมัย เป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลกปี 1986 โดยตัวเองคว้าโกลเด้นบอล เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์
ลูกที่มาราโดน่ากระชากครึ่งสนาม หลบ 4 คนเข้าไปยิงประตูอังกฤษ ในรอบ 8 ทีม ได้รับการยกย่องให้เป็นประตูแห่งศตวรรษ “เสือเตี้ย” ขึ้นถึงจุดสูงสุด เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกตลอดกาลเทียบเท่าเปเล่
แต่ในความเจิดจ้าเหล่านั้น มาราโดน่าก็มีด้านมืดจาก “แฮนด์ ออฟ ก๊อด” โดดเอามือชกบอลเข้าประตูอังกฤษ แล้วโบ้ยเป็นหัตถ์ของพระเจ้า ตามด้วยเรื่องอื้อฉาวใช้สารต้องห้าม ใช้ยาเสพติดจนเฉียดตายมาหลายหน
ถ้าแฮนด์ ออฟ ก๊อด เป็นตำนานฟุตบอลโลกที่คนอังกฤษไม่มีวันให้อภัย ตัวมาราโดน่าเองลึก ๆ แล้วก็อาจจะไม่ให้อภัยตัวเองเหมือนกัน ในเรื่องที่จมปลักกับโคเคน เหล้า และสารต้องห้าม ทำลายร่างกายจนย่ำแย่
ช่วงท้ายในอาชีพค้าแข้งกับนาโปลี มาราโดน่าติดโคเคนงอมแงม แถมพัวพันกับแก๊งมาเฟียอิตาลี เคยโดนตรวจจับสารกระตุ้น ถูกแบนห้ามแข่งถึง 15 เดือน
“เสือเตี้ย” เล่นยาเยอะ หลายครั้งเลี่ยงด้วยการส่งฉี่เพื่อนไปตรวจแทน แต่ในฟุตบอลโลก 1994 ก็ดวงแตก มาราโดน่าไม่ผ่านตรวจโด๊ป ถูกส่งกลับบ้านกลางทัวร์นาเมนต์ อับอายกันไปทั้งประเทศ
แต่ไม่ว่าชีวิตส่วนตัวจะดาร์กขนาดไหน ความเป็นมาราโดน่าก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูด เคยเป็นกุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า เมื่อปี 2008 เคยไปคุมทีมสโมสรในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็สร้างกระแส ดึงความสนใจจากชาวโลกได้ทุกอย่างที่ทำ
มาราโดน่าคือความสุดโต่ง ไม่เคยมีอะไรเป็นธรรมดา
แม้แต่เรื่องตายก็โกงความตายมาหลายครั้ง เขาเองเหมือนจะรู้ตัวเพราะเคยพูดว่า “หากพระเจ้าตัดสินว่ามันถึงเวลา ก็จะมาพาพวกเราไปเอง”
มาราโดน่าไปแล้ว และแม้แต่คนอังกฤษก็คงคิดถึงเขา
