ปราบล้มบอล หยุดวงจรอุบาทว์ คดีประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย

การปราบปรามขบวนการล้มบอลที่กำลังเป็นข่าวฮือฮา ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการจับคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่ลงโทษทางสังคม หรือกล่าวหากันลอย ๆ เหมือนเมื่อก่อน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คือ ฮีโร่ ทั้งคู่ที่ออกมาดับเครื่องชน เพื่อหยุดวงจรอุบาทว์

แต่ถ้าจะล้างบางกันจริง ๆ ก็คงต้องเหนื่อยอีกเยอะนะครับ เรื่องนี้เป็นกระบวนการที่โยงใยกันใหญ่โต มีคนเกี่ยวข้องมากมาย ยิ่งสาวไปไกลก็จะยิ่งยาก จนไม่รู้ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า

ผู้เกี่ยวข้องไม่ได้มีแค่ 12 คน ที่ประกาศชื่อออกมา และแน่นอนว่าตัวการต้องเกี่ยวข้องกับ “โต๊ะบอล” ซึ่งมีเงินหมุนเวียนมหาศาล

คนที่เป็นเจ้าของหรืออยู่เบื้องหลังโต๊ะบอลก็ไม่ใช่ธรรมดา

ถ้าจะปราบล้มบอลมันก็ต้องจับโต๊ะบอลด้วย เพื่อหยุดการพนันผิดกฎหมาย หยุดเส้นทางไหลเวียนของเงินมาสู่การจ้างงานให้ทำผิด

หากจัดการกับต้นตอไม่ได้ จับพวกปลาซิว ปลาสร้อยไปก็แทบจะไม่มีผล

แล้วถ้าจะแก้ปัญหากันจริง ๆ ก็สมควรตรวจสอบทั้งระบบบอลไทย ดูคุณสมบัติ นายทุนเจ้าของสโมสรด้วยว่า เครดิตดีไหม เข้ามาซื้อทีมแล้ว จ่ายค่าจ้างนักเตะตรงเวลาหรือเปล่า

เป็นเจ้าของโต๊ะบอลซะเองหรือเปล่า ?

นักเตะที่ซื่อสัตย์ คิดดีทำดี สมควรได้รับการดูแลเพื่อไม่ให้หลงทางเข้าสู่ด้านมืด กรรมการผู้ตัดสินก็ถึงเวลาคัดสรรอย่างละเอียด ใช้โอกาสนี้แยกแยะกลุ่มที่ไม่น่าไว้ใจออกไป เหลือไว้เฉพาะพวกน้ำดีจริง ๆ เท่านั้น

ไหน ๆ จะทำความสะอาดทั้งทีก็ทำทั้งบ้านไปเลย แฟนบอลจะได้มั่นใจ ไม่หลอนกับเรื่องล้มบอล หรืออย่างน้อยเวลามีปัญหาก็ควรจะมองกันในแง่ดีมากกว่าเดิม

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้บอลไทยเสียศูนย์ไม่ใช่น้อย สมาคมฟุตบอลฯจึงต้องเด็ดขาด เพื่อสร้างความมั่นใจ


และต้องเอาคนผิดเข้าคุกให้ได้ !