คุยกับเอกราช เอกราช เก่งทุกทาง
ทีมชาติไทยมีคิวลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิ คัพ ที่สิงคโปร์ ช่วงต้นเดือนหน้า งานนี้เป้าหมายคือแชมป์สถานเดียว อย่างอื่นถือว่าแป้ก
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
แต่ด้วยความพร้อมแค่ครึ่งถัง มีเวลาเก็บตัว 7 วัน ทีมไทยจะไหวหรือ ?
ซูซูกิ คัพ ปีนี้เป็นหนึ่งในครั้งที่มีความหมายสุด ๆ เป็นงานโชว์ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติชุดใหญ่ และว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลฯในอนาคต
แล้วก็เป็นรายการที่เราลงแข่งโดยไม่ใช่ทีมเต็งหนึ่ง
เวียดนาม ก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของอาเซียนเต็มตัว นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ แม้จะเจ็บปวด แต่อย่างเดียวที่ทำได้ก็แค่ยืดอกสู้ พยายามกู้ชื่อ ทวงของของเราคืนกลับมา
ทีมไทยอยู่ในจุดที่ถอยไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะอีกเรื่องที่ต้องเตือนตัวเองก็คือ ทีมชาติไทยในปัจจุบันกำลังถูกบอลสโมสรกลืนกิน ความสำคัญ ความเร้าใจของเกมทีมชาติ สู้กระแสไทยลีกไม่ได้เลย
นับวันสโมสรยิ่งอยู่เหนือและมาก่อนทีมชาติ
น่าตกใจไหมครับ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ลงเตะหลังสุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ไม่มีแมตช์แข่งมาเกือบครึ่งปี
ครั้งสุดท้ายที่เราลงเล่นคือ เกมแพ้มาเลเซีย 1-0 ในบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของอากิระ นิชิโนะ ในตำแหน่งกุนซือ
หลังจากนั้น เข้าใจได้ว่าโดนโควิดบีบให้ต้องพัก แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรทิ้งช่วงยาวขนาดนี้
การไม่ได้ลงแข่งมานานกำลังทำร้ายทีมชาติไทย
ความต่อเนื่องมันไม่มี นักเตะไม่ได้เล่นด้วยกันนานเกินไป ความเข้าใจในเกมก็หายหมด
ยิ่งชุดซูซูกิ คัพ มีเวลาเก็บตัวแค่ 7 วัน แถมใช้กุนซือใหม่ คือ มาโน่ โพลกิ้ง สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง
ความจริง ทีมชาติในยุโรป หรืออเมริกาใต้ เขาก็ได้รวมตัวกันประมาณนี้ แต่ที่ไม่มีปัญหา เป็นเพราะมีคิวเตะประจำทุกเดือนตามปฏิทินของฟีฟ่า นักเตะจึงรู้ทาง คุ้นเคยกับระบบเป็นอย่างดี
ต่างจากทีมชาติไทย นาน ๆ ลงแข่งที เวลาเข้าค่ายซ้อมก็จิ๊บจ๊อย
พอเวลาน้อย ก็ต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก เรื่องแท็กติก ทีมเวิร์ก ความละเอียดในเกม กุนซือมาโน่เพิ่มเติมได้แค่ระดับหนึ่ง จะให้เสี่ยงเล่นท่ายาก คงไม่ไหว
ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งเตะรอบคัดเลือกบอลชิงแชมป์เอเชียไปหมาด ๆ คือตัวอย่างชัดเจนของการเผางาน ถ้าแยกดูตัวต่อตัว เราเก่งกว่าเพื่อน แต่เล่นเป็นทีมกลับเป็นรองมาเลเซียชัดเจน โชคดีที่เอาตัวรอดผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
แต่สำหรับซูซูกิ คัพ ที่ชุดใหญ่มาเจอกัน ฝีเท้าไล่เลี่ยกัน ทีมไทยหนักใจแน่เมื่อต้องปะทะกับสิงคโปร์ และเวียดนาม ที่เตรียมตัวมาดีกว่าเรา
การเตรียมตัวดีกว่าหมายถึง สามารถเล่นตามแผนได้ดีกว่า คู่แข่งทุกทีมในอาเซียนเวลาเจอทีมไทย ไม่มีใครเปิดหน้าแลกหมัด เขามาสู้ด้วยแท็กติก รอรับแล้วสวน อัดกลางแน่น ๆ ใช้ความฟิตไล่เพรสซิ่ง บีบเราให้เล่นไม่ออก ก่อนจะชิงจังหวะเข้าทำเนื้อ ๆ
ถ้านักเตะไทยฟิตถึง มีเวลาซ้อมทีมมากพอ ก็คงไม่ซีเรียส แต่ด้วยข้อจำกัดอย่างที่รู้กัน ทำให้งานนี้มีเสียว
ไม่อยากจะคิดว่าถ้าพลาดแชมป์ขึ้นมา บอลไทยจะฝุ่นตลบซักแค่ไหน
แพะคงมาเป็นฝูง แต่ปัญหาไม่ช่วยกันแก้อีกตามเคย