ไหวไหมทีมไทย ?

นักฟุตบอลทีมชาติไทย
คุยกับเอกราช
เอกราช เก่งทุกทาง

 

ทีมชาติไทยมีคิวลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซูซูกิ คัพ ที่สิงคโปร์ ช่วงต้นเดือนหน้า งานนี้เป้าหมายคือแชมป์สถานเดียว อย่างอื่นถือว่าแป้ก

แต่ด้วยความพร้อมแค่ครึ่งถัง มีเวลาเก็บตัว 7 วัน ทีมไทยจะไหวหรือ ?

ซูซูกิ คัพ ปีนี้เป็นหนึ่งในครั้งที่มีความหมายสุด ๆ เป็นงานโชว์ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติชุดใหญ่ และว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลฯในอนาคต

แล้วก็เป็นรายการที่เราลงแข่งโดยไม่ใช่ทีมเต็งหนึ่ง

เวียดนาม ก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของอาเซียนเต็มตัว นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ แม้จะเจ็บปวด แต่อย่างเดียวที่ทำได้ก็แค่ยืดอกสู้ พยายามกู้ชื่อ ทวงของของเราคืนกลับมา

ทีมไทยอยู่ในจุดที่ถอยไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะอีกเรื่องที่ต้องเตือนตัวเองก็คือ ทีมชาติไทยในปัจจุบันกำลังถูกบอลสโมสรกลืนกิน ความสำคัญ ความเร้าใจของเกมทีมชาติ สู้กระแสไทยลีกไม่ได้เลย

นับวันสโมสรยิ่งอยู่เหนือและมาก่อนทีมชาติ

น่าตกใจไหมครับ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ลงเตะหลังสุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ไม่มีแมตช์แข่งมาเกือบครึ่งปี

ครั้งสุดท้ายที่เราลงเล่นคือ เกมแพ้มาเลเซีย 1-0 ในบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของอากิระ นิชิโนะ ในตำแหน่งกุนซือ

หลังจากนั้น เข้าใจได้ว่าโดนโควิดบีบให้ต้องพัก แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรทิ้งช่วงยาวขนาดนี้

การไม่ได้ลงแข่งมานานกำลังทำร้ายทีมชาติไทย

ความต่อเนื่องมันไม่มี นักเตะไม่ได้เล่นด้วยกันนานเกินไป ความเข้าใจในเกมก็หายหมด

ยิ่งชุดซูซูกิ คัพ มีเวลาเก็บตัวแค่ 7 วัน แถมใช้กุนซือใหม่ คือ มาโน่ โพลกิ้ง สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง

ความจริง ทีมชาติในยุโรป หรืออเมริกาใต้ เขาก็ได้รวมตัวกันประมาณนี้ แต่ที่ไม่มีปัญหา เป็นเพราะมีคิวเตะประจำทุกเดือนตามปฏิทินของฟีฟ่า นักเตะจึงรู้ทาง คุ้นเคยกับระบบเป็นอย่างดี

ต่างจากทีมชาติไทย นาน ๆ ลงแข่งที เวลาเข้าค่ายซ้อมก็จิ๊บจ๊อย

พอเวลาน้อย ก็ต้องพึ่งความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก เรื่องแท็กติก ทีมเวิร์ก ความละเอียดในเกม กุนซือมาโน่เพิ่มเติมได้แค่ระดับหนึ่ง จะให้เสี่ยงเล่นท่ายาก คงไม่ไหว

ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งเตะรอบคัดเลือกบอลชิงแชมป์เอเชียไปหมาด ๆ คือตัวอย่างชัดเจนของการเผางาน ถ้าแยกดูตัวต่อตัว เราเก่งกว่าเพื่อน แต่เล่นเป็นทีมกลับเป็นรองมาเลเซียชัดเจน โชคดีที่เอาตัวรอดผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ

แต่สำหรับซูซูกิ คัพ ที่ชุดใหญ่มาเจอกัน ฝีเท้าไล่เลี่ยกัน ทีมไทยหนักใจแน่เมื่อต้องปะทะกับสิงคโปร์ และเวียดนาม ที่เตรียมตัวมาดีกว่าเรา

การเตรียมตัวดีกว่าหมายถึง สามารถเล่นตามแผนได้ดีกว่า คู่แข่งทุกทีมในอาเซียนเวลาเจอทีมไทย ไม่มีใครเปิดหน้าแลกหมัด เขามาสู้ด้วยแท็กติก รอรับแล้วสวน อัดกลางแน่น ๆ ใช้ความฟิตไล่เพรสซิ่ง บีบเราให้เล่นไม่ออก ก่อนจะชิงจังหวะเข้าทำเนื้อ ๆ

ถ้านักเตะไทยฟิตถึง มีเวลาซ้อมทีมมากพอ ก็คงไม่ซีเรียส แต่ด้วยข้อจำกัดอย่างที่รู้กัน ทำให้งานนี้มีเสียว

ไม่อยากจะคิดว่าถ้าพลาดแชมป์ขึ้นมา บอลไทยจะฝุ่นตลบซักแค่ไหน


แพะคงมาเป็นฝูง แต่ปัญหาไม่ช่วยกันแก้อีกตามเคย