ราล์ฟ รังนิค

ราล์ฟ รังนิค
คุยกับเอกราช
เอกราช เก่งทุกทาง

 

แมนฯยูไนเต็ดตั้ง ราล์ฟ รังนิค เป็นกุนซือชั่วคราว คุมทีมจนจบฤดูกาล หลังจากนั้นจะรับบทที่ปรึกษาต่ออีก 2 ปี

เซอร์ไพรส์ไหม ? ก็ใช่อยู่นะครับ

รังนิคหยุดคุมทีมมา 2 ปี ช่วงหลังหันไปจับงานบริหาร เป็นประธานกีฬาและพัฒนาเทคนิคให้ โลโคโมทีฟ มอสโก ในรัสเซีย

เท่ากับแทบจะ “เอาต์” หลุดจากวงโคจรไปแล้ว

แต่ก็โอเค, ในเมื่อยูไนเต็ดแค่ดึงมาทำทีมชั่วคราว ช่วยประคองให้จบฤดูกาล ความเก๋าของรังนิคคงช่วยได้ในระดับหนึ่ง

แต่จะหวังถึงขั้นทะลุขึ้นท็อปโฟร์ หรือเข้ามาเปลี่ยนทีมไปอย่างสิ้นเชิง ก็คงขอกันมากเกินไป

ราล์ฟ รังนิค ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นตัวพ่อของเกมเกเก้นเพรส เพรสซิ่งบ้าคลั่งตั้งแต่แดนหน้า มีอิทธิพลอย่างสูงต่อกุนซือรุ่นหลังอย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์, โธมัส ทูเคิ่ล รวมทั้ง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ โค้ชบาเยิร์นคนปัจจุบัน

นี่คือเครื่องหมายการค้า, แต่แมนฯยูฯคงไม่คิดง่าย ๆ ว่า กุนซือเยอรมันกำลังป๊อป ลิเวอร์พูลมีคล็อปป์ เชลซีมีทูเคิ่ล เราดึงอาจารย์พวกมันมาเลยดีกว่า…

คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก (มั้ง) ครับ

ผู้บริหารปีศาจแดงคงอยากเปลี่ยนทีมให้เล่นบอลเข้ากระแส เร็วขึ้น ดุขึ้น กล้าเพรสสูง กดดันคู่แข่ง เหมือนอย่างทีมส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีกเขาเล่นกัน

แต่ด้วยความที่ ราล์ฟ รังนิค เป็นแค่กุนซือชั่วคราว เข้ามาคุมทีมช่วงกลางฤดูกาล ไม่ได้ซ้อม ไม่ได้เตี๊ยมกันมาตั้งแต่พรีซีซั่น มันก็เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนอะไรเยอะ ๆ

ถ้านักเตะปรับไม่ได้ หรือเล่นไม่ถนัด แทนที่จะดีอาจกลายเป็นแย่กว่าเดิม

แล้วอย่างที่รู้กันก็คือ แนวรุกแมนฯยูฯไม่ใช่ทุกคนที่เพรสซิ่งได้

เมสัน กรีนวู้ด โอเค แต่โรนัลโด้, บรูโน่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่ ล้วนเป็นบอลเทคนิค ชอบเล่นชิงจังหวะ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันไล่บอลเหมือนเครื่องจักร

กุนซือรังนิคเองก็รู้ คงไม่กล้าจับลูกทีมมาจูนใหม่ เขาน่าจะพบกันครึ่งทาง ขอให้วิ่ง ขอให้ไล่มากกว่าเดิม แต่ไม่ถึงเปลี่ยนแมนฯยูฯให้เป็น ลิเวอร์พูล 2 หรือเชลซี 2 แน่นอน

ไม่งั้นอาจทะเลาะกัน วงแตกได้

โดยเฉพาะ “พี่โด้” ซึ่งรังนิคต้องหาจุดสมดุลให้ดี

โรนัลโด้ก็คือโรนัลโด้ที่เล่นเป็นตัวเอง ทุกทีมที่ผ่านมาก็ได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า พี่โด้ไม่จำเป็นต้องวิ่งเยอะ เพราะจุดเด่นอยู่ที่การอ่านเกม หาตำแหน่งที่ว่างเก่ง เฉียบขาดที่สุดในทีม ยิงลูกสำคัญเปลี่ยนเกมให้ทีมได้เสมอ

กุนซือคนไหนสั่งลูกพี่ให้เกเก้นเพรส ก็บ้าแล้ว

ราล์ฟ รังนิค อายุ 63 ไม่บ้า และเก๋าพอจะรู้ว่าควรเอาตัวรอดยังไง

แมนฯยูฯดีขึ้นแน่ แต่อย่าคาดหวังอะไรมากก็แล้วกัน