ขึ้นแท่นปักที โดย พิศณุ นิลกลัด

แชมป์มาสเตอร์ส ที่คนไม่รัก

แพทริค รีด คว้าแชมป์มาสเตอร์สเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทำคะแนนรวม 273 และชนะ ริคกี ฟาวเลอร์ 1 แต้ม และ จอร์แดน สปีธ 2 แต้มหนุ่มอเมริกันวัย 27 ปีเป็นนักกอล์ฟคนที่ 4 ติดต่อกันที่ได้แชมป์เมเจอร์ครั้งแรกในชีวิตที่ออกัสตาต่อจาก เซอร์จิโอ การ์เซีย, แดนนี วิลเล็ตต์ และ สปีธรีดไม่ใช่ขวัญใจประชาชนและเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีคนเกลียดมากที่สุดในโลก

ในการสำรวจความคิดเห็นของนักกอล์ฟในพีจีเอ ทัวร์ในปี 2015 โดยอีเอสพีเอ็น รีดติดอันดับ 2 รองจาก บับบา วัตสัน ในฐานะนักกอล์ฟที่เพื่อนนักกอล์ฟเกลียดที่สุด ขณะที่แฟนกอล์ฟไม่ชอบรีดเช่นกัน นั่นเป็นเพราะรีดถูกมองว่าอวดดี ขี้โม้และขี้โกง

รีดมีประวัติด่างพร้อยตั้งแต่เล่นกอล์ฟที่ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ จอร์เจียใกล้ ๆ กับออกัสตา เขาถูกกล่าวหาว่าโกงในระหว่างการเล่นกอล์ฟ ขโมยเงินและพัตเตอร์ของเพื่อนร่วมทีม

รีดถูกปลดจากทีมหลังจากเล่นให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ปีเดียว โดยที่โค้ชคนหนึ่งของทีมบอกว่าเขามีความประพฤติไม่ดีแม้ว่าเขาจะมีฝีมือดี

รีดยืนกรานว่าเขาไม่ใช่คนขี้โกงหรือขี้ขโมยและถูกปลดจากทีมเพราะเรื่องเกี่ยวกับการดื่มสุรา

ต่อมาเขาย้ายไปเรียนที่จอร์เจีย สเตทและเพื่อนร่วมทีมที่นั่นไม่ชอบเขาแต่เขาช่วยให้ทีมได้แชมป์มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสหรัฐ 2 ครั้ง

รีดเกิดในเทกซัสและเป็นคนประเภทที่ชอบแนะนำตัวเองว่า “ผมมาจากเทกซัส” ซึ่งถูกมองว่าเป็นการโอ้อวด

รีดได้แชมป์พีจีเอ ทัวร์ 6 รายการ (รวมทั้งมาสเตอร์ส) หลังจากได้แชมป์รายการที่ 3 ของเขาที่คาดิลแลค แชมเปียนชิพซึ่งเป็นรายการของเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิพส์ในปี 2014 เขาบอกว่าเขาเป็นนักกอล์ฟ 5 อันดับแรกของโลก (ตอนนั้นเขาอยู่อันดับ 44 ของโลกก่อนขยับขึ้นไปอยู่ที่ 20 หลังจากคว้าแชมป์คาดิลแลค)

ตอนนั้นเขามีอายุ 23 ปีและบอกว่ามีนักกอล์ฟไม่กี่คนนอกจาก ไทเกอร์ วูดส์ และนักกอล์ฟระดับตำนานที่สามารถทำได้อย่างเขาในวัยขนาดนี้

การคว้าแชมป์มาสเตอร์สทำให้อันดับโลกของเขาขยับขึ้นไปอยู่ที่ 11 และยังไม่ถึง 5 อันดับแรก

เขามักจะสบถคำหยาบแม้กระทั่งต่อหน้ากล้องโทรทัศน์และด่าคนดู

ชาวยุโรปไม่ชอบรีด หลังจากที่เขาใช้นิ้วแตะที่ปากเป็นการเย้ยคนดูว่าเงียบหน่อยในระหว่างการแข่งขันไรเดอร์ คัพที่สกอตแลนด์ในปี 2014

รีดมีผลงานดีมากในไรเดอร์ คัพ โดยทำได้ 7 คะแนนในการเล่น 2 ครั้ง (ได้ครั้งละ 3.5 คะแนนในการเล่นที่สกอตแลนด์และที่มินเนโซตาในปี 2016)

การเล่นที่ดุดันและผลงานที่ดีทำให้เขาได้รับฉายาว่า “กัปตันอเมริกา”

ในด้านครอบครัว เขาไม่ถูกกับพ่อแม่และน้องสาวมานานแล้ว

แม้ว่ารีดจะถูกมองว่าเป็น “แบดบอย” แต่นักวิจารณ์บางคนบอกว่าวงการกอล์ฟต้องการคนแบบนี้เพื่อช่วยสร้างสีสัน