นี่เป็นชัยชนะครั้งแรกตั้งแต่คว้าแชมป์บริดจสโตน อินวิเทชันนอล ในปี 2013 ของไทเกอร์ ซึ่งได้แชมป์พีจีเอ ทัวร์ รวม 80 ครั้ง และต้องการชัยชนะอีก 2 ครั้ง ก็จะเท่ากับสถิติชนะมากที่สุดในโลก 82 ครั้ง ของแซม สนีด
ไทเกอร์พูดขำ ๆ ว่า นี่เป็นชัยชนะที่แตกต่างจากแชมป์ 79 รายการที่ผ่านมาของเขา เพราะศิลปะการปรบมือของคนดูหายไปแล้ว เพราะคนที่สามารถตบมือได้มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ
ชัยชนะครั้งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา หลังจากที่ไทเกอร์ไม่รู้ว่าจะกลับมาแข่งกอล์ฟได้อีกหรือเปล่าเมื่อปีที่แล้ว
ตอนนั้น ไทเกอร์มีปัญหาทั้งร่างกายและจิตใจ และเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าถ้าเขากลับมาเล่นได้ก็คงไม่สามารถคว้าแชมป์ได้อีก
ไทเกอร์เข้ารับการผ่าตัดกล้ามเนื้อแผ่นหลังเป็นครั้งที่ 4 เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ก่อนจะถูกจับในข้อหาขับรถขณะมึนเมา (พิสูจน์ได้ภายหลังว่าเมายาแก้ปวด)
เขากลับมาเล่นอีกครั้งที่เวิลด์ ชาลเลนจ์ ซึ่งเป็นรายการของเขาในเดือนพฤศจิกายน และกลับมาแข่งในพีจีเอ ทัวร์ ที่ฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ไทเกอร์เล่นดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะปลดล็อกที่ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ
แม้ว่านักวิจารณ์หลายคนจะบอกว่า นี่เป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา แต่ไทเกอร์บอกว่า การกลับมาคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น 1950 ของเบน โฮแกน ยิ่งใหญ่กว่า
โฮแกนคว้าแชมป์เมเจอร์รายการนี้เพียง 16 เดือน หลังจากที่เขาบาดเจ็บปางตายเมื่อรถที่เขาขับประสานงากับรถบัส เห็นสภาพแล้วไม่น่ารอด
จำนวนฝูงชนที่เดินตามดูไทเกอร์ในรอบสุดท้ายของทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ แสดงให้เห็นว่าเขายังคงเป็นนักกอล์ฟยอดนิยม
นักวิจารณ์หลายคนเชื่อว่าการกลับมาของไทเกอร์จะทำให้กอล์ฟได้รับความนิยมมากขึ้น
ในยามที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนมีแรงดึงดูดคนดูได้มากเท่ากับไทเกอร์
เกจิหลายคนมองว่า ไทเกอร์ซึ่งได้แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ กลับมามีโอกาสทำลายสถิติได้แชมป์เมเจอร์มากที่สุด 18 รายการ ของแจ็ค นิคลอส ซึ่งแจ็คเป็นหนึ่งในคนที่เชื่อเช่นนั้น
ไทเกอร์ยังมีเวลาคว้าแชมป์เมเจอร์เพิ่ม หลังจากชนะครั้งสุดท้ายที่ยูเอส โอเพ่น 2008
วัย 42 ปีอาจจะแก่สำหรับนักกอล์ฟ แต่นักกอล์ฟหลายคนได้แชมป์เมเจอร์ในวัย 40 กว่า รวมทั้งนิคลอสซึ่งได้แชมป์เมเจอร์ครั้งสุดท้ายตอนอายุ 46 ปี ฟิล มิคเคลสัน ซึ่งครองแชมป์เมเจอร์ครั้งหลังสุดในวัย 43 ปี
ชัยชนะที่ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ อาจเป็นการเริ่มต้นอีกยุคของไทเกอร์