ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ปรับโครงสร้าง

คอลัมน์ ขึ้นแท่นปักที โดย พิศณุ นิลกลัด

คีธ เพลลีย์ กำลังพยายามสร้างผลงานหลังจากรับตำแหน่งซีอีโอของยูโรเปี้ยน ทัวร์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ก่อนการแข่งขันดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพที่ดูไบ ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายประจำฤดูกาลของยูโรเปี้ยน ทัวร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพลลีย์ประกาศปรับโครงสร้างของทัวร์โดยยึดหลัก “ผู้เล่นต้องมาก่อน”

ไฟนัล ซีรี่ส์ในปีหน้าจะลดเหลือ 3 รายการจาก 4 รายการ โดยที่เอชเอสบีซีแชมเปี้ยนส์ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการของเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพส์จะไม่เป็นรายการของไฟนัล ซีรี่ส์เช่นเดียวกับบีเอ็มดับบลิว มาสเตอร์ส

ทั้ง 2 รายการแข่งที่เซี่ยงไฮ้ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ตัดเอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส์ออกจากไฟนัล ซีรี่ส์ เพราะนักกอล์ฟอันดับต้น ๆ บางคนของเรซ ทู ดูไบ ไม่ได้สิทธิ์แข่งรายการนี้ ขณะที่บีเอ็มดับบลิว มาสเตอร์สจะไม่เป็นรายการของยูโรเปี้ยน ทัวร์อีกต่อไป เพราะบีเอ็มดับบลิวถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์

ไฟนัล ซีรี่ส์จะมีเตอร์กิช แอร์ไลน์ส โอเพ่นกับดีพี เวิลด์ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพเหมือนเดิมและเพิ่มเนดแบงก์ ชาลเลนจ์ที่แอฟริกาใต้

ขณะเดียวกัน นักกอล์ฟสามารถคงสมาชิกสภาพของยูโรเปี้ยน ทัวร์ โดยแข่งแค่ 5 รายการต่อฤดูกาล (ไม่รวมเมเจอร์และเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพส์) จากเดิม 13 รายการ

การเล่น 13 รายการในยูโรเปี้ยน ทัวร์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักกอล์ฟชั้นนำ เพราะพวกนี้เล่น 8 รายการอยู่แล้ว คือ เมเจอร์ 4 รายการและเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพส์ 4 รายการ

นั่นเท่ากับว่านักกอล์ฟเหล่านี้เลือกเล่นรายการอื่น ๆ ของยูโรเปี้ยน ทัวร์แค่ 5 รายการเท่านั้นก็สามารถรักษาสมาชิกภาพในทัวร์

ปัญหาอยู่ที่ว่านักกอล์ฟชั้นนำของยุโรปหลายคนหลุดออกจาก50อันดับแรกของโลกหรือเฉียดฉิวกับการอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลกรวมทั้งเอียน โพลเตอร์, ลี เวสต์วูด, แกรม แม็คดาวล์และลุค โดนัลด์

นักกอล์ฟพวกนี้คิดจะลาออกจากการเป็นสมาชิกของยูโรเปี้ยน ทัวร์และเน้นเล่นในพีจีเอ ทัวร์เท่านั้น

นั่นเป็นเพราะเมื่อไม่ได้อยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก พวกเขาจะไม่ได้สิทธิ์แข่งเมเจอร์และเวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพส์โดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้ลำบากที่จะเล่น 13 รายการเพื่อคงสมาชิกภาพของยูโรเปี้ยน ทัวร์

ดังนั้น ยูโรเปี้ยน ทัวร์จึงเอาใจนักกอล์ฟเหล่านี้ ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไรในการเล่น 5 รายการในยูโรเปี้ยน ทัวร์

เพลลีย์บอกว่ายูโรเปี้ยน ทัวร์ต้องสู้ด้วยเงินเพื่อดึงให้นักกอล์ฟเป็นสมาชิกของยูโรเปี้ยน ทัวร์และสู้กับพีจีเอ ทัวร์

เขาบอกว่าบีเอ็มดับบลิว พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพที่เวนต์เวิร์ทในอังกฤษเป็นรายการเอกหรือ “เรือธง” ของยูโรเปี้ยน ทัวร์ แต่มีเงินรางวัลรวมแค่ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไบรอน เนลสัน คลาสสิกของพีจีเอ ทัวร์ซึ่งแข่งในสัปดาห์เดียวกัน มีเงินรางวัลประมาณ 6 ล้านดอลลาร์

เพลลีย์บอกว่านั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และบีเอ็มดับบลิว พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพต้องมีเงินรางวัลระดับ 8-10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ในปี 2018

การปรับโครงสร้างของยูโรเปี้ยน ทัวร์ครั้งนี้ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ วงการกอล์ฟกำลังจับตาว่าการรวมกันระหว่างยูโรเปี้ยน ทัวร์กับเอเชี่ยน ทัวร์จะสำเร็จหรือไม่ และจะออกมาในรูปแบบไหน

ถ้ารวมกันได้ ทัวร์ใหม่น่าจะเร้าใจ

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat