เมื่อ “นักวิทยาศาสตร์บ้า” กลายเป็นจอมพลัง

Photo by KARIM SAHIB / AFP

คอลัมน์ ขึ้นแท่นปักที โดย พิศณุ นิลกลัด FB: @Pitsanuofficial

พีจีเอ ทัวร์ กลับมาแข่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ในรายการชาร์ลส์ ชวาบ ชาลเลนจ์ ที่เทกซัส หลังจากหยุดพัก 3 เดือน เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19

นอกจาก แดเนียล เบอร์เกอร์ ซึ่งได้แชมป์ด้วยการชนะคอลลิน โมริคาวา ในการเพลย์ออฟ นักกอล์ฟอีกคนที่เป็นข่าว คือ ไบรสัน ดีแชมโบ ซึ่งได้อันดับ 3

ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักกอล์ฟหนุ่มชาวอเมริกันคนนี้มีผลงานดี คือ ร่างกายที่บึกบึน ทำให้เขาสะวิงได้แรงขึ้น ตีไกลขึ้น

ดีแชมโบวัย 26 ปี ใช้เวลาในช่วงล็อกดาวน์ออกกำลังกายและยกน้ำหนักเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เขาเพิ่มน้ำหนักตัวอีก 9 กิโลกรัม ร่างกายหนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เขาแข่งรายการหลังสุดเมื่อเดือนมีนาคม

ที่จริงแล้ว เขาพยายามเพิ่มขนาดของร่างกายมานานแล้ว และมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 20 กิโลกรัม ใน 9 เดือนที่ผ่านมา

เป้าหมายของเขาคือ ทำให้ตัวเองแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเพิ่มความเร็วของคลับเฮดสปีด ผลที่ได้คือ เขาตีหัวไม้ 1 ได้ระยะเฉลี่ย 344 หลา ลูกพุ่งทะยานออกจากหน้าไม้ด้วยความเร็วเฉลี่ย 190 ไมล์ต่อชั่วโมง (310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

จัสติน โรส นักกอล์ฟอังกฤษบอกว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นคนตัวเล็ก ๆ เลย ด้วยความสูง 190 เซนติเมตร หนัก 86 กิโลกรัม แต่ค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับดีแชมโบ การตีไกลมากของดีแชมโบทำให้หลายคนกังวลว่า นักกอล์ฟลักษณะนี้จะทำลายกีฬากอล์ฟ

โคลิน มอนต์โกเมอรี่ อดีตมือ 1 ของยุโรป 8 สมัย บอกว่า ดูดีแชมโบตีแล้วเหมือนกับไม่ใช่เรื่องจริง

เขาบอกว่ามีเพียง 4 หลุม ที่โคโลเนียล คันทรีคลับ ที่ดีแชมโบต้องตีชอตแอพโพรชขึ้นกรีนไกลเกิน 100 หลา

เขาเรียกร้องให้มีกติกาที่กำหนดสเป็กของลูกกอล์ฟสำหรับนักกอล์ฟอาชีพ หรือกฎอื่น ๆ ไม่งั้นสนามกอล์ฟรุ่นเก่าจะไม่สามารถใช้แข่งขันได้ เพราะไม่สามารถรับมือกับนักกอล์ฟที่ตีไกลมาก

ดีแชมโบบอกว่า แม้เขาจะตีลูกให้พุ่งด้วยความเร็ว 193 หรือ 195 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ทุกหลุม

ดีแชมโบซึ่งได้แชมป์พีจีเอ ทัวร์ 5 รายการ (ก่อนการแข่งขันในสัปดาห์ที่ผ่านมา) มีชื่อเสียงมานานแล้วทั้งด้านบวกและด้านลบ

ตอนที่เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น เขาเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ที่ได้แชมป์มหาวิทยาลัยของสหรัฐ และยูเอส อเมเจอร์ ในปีเดียวกันในปี 2015

ปีที่แล้วเขาโดนสับเละ หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 2 นาที ในการพัตต์จากระยะ 8 ฟุต ในการแข่งขันรายการหนึ่ง

ดีแชมโบมีฉายาว่า “นักวิทยาศาสตร์บ้า” (Mad Scientist) เพราะเขาจบปริญญาตรีด้านฟิสิกส์ จึงนำหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ในการตีกอล์ฟหลายอย่าง 1 ในนั้นคือตอนนี้เขามีฉายาใหม่ว่า “จอมบึก” (Incredible Bulk) เลียนแบบ “ยักษ์เขียว” (Incredible Hulk) ในการ์ตูนและภาพยนตร์ มีคนแซวว่าถ้าดีแชมโบมีตัวสีเขียว เขาก็จะเป็นเหมือนกับ “ฮัลค์”

น่าติดตามว่าดีแชมโบจะไปได้ไกลแค่ไหน