‘คู่กัด’ แห่งวงการกอล์ฟ

ขึ้นแท่นปักที
พิศณุ นิลกลัด
FB : @Pitsanuofficial

 

บรูคส์ เคปค่า กับ ไบรสัน ดีแชมโบ 2 นักกอล์ฟชาวอเมริกัน เป็น “คู่กัด” ที่ฟัดกันใน “สงครามน้ำลาย” อย่างที่เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนในวงการกอล์ฟ

เคปค่าวัย 31 ปี กับดีแชมโบวัย 27 ปี เคยประกาศ “สงบศึก” หลายครั้ง

แต่หยุดรบกันได้ไม่นานก็กลับมาลุยกันต่อ ราวกับไม่มีวันจบสิ้น

เรื่องราวชักจะบานปลาย เมื่อมีกองเชียร์ร่วมวงด้วย ผู้สนับสนุนของเคปค่าดูเหมือนว่ามีมากกว่า

เรื่องล่าสุดของ 2 คนนี้เกิดขึ้นที่รายการบีเอ็มดับบลิว แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เมื่อดีแชมโบเผชิญหน้ากับคนดูคนหนึ่งซึ่งตะโกนว่า “ทำดีมาก บรูคซี่” หลังจากที่ดีแชมโบตีเสีย ก่อนที่เขาจะแพ้ แพทริค แคนท์เลย์ ในเพลย์ออฟ

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้พีจีเอ ทัวร์ ประกาศว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป แฟนกอล์ฟที่ตะโกนว่า “บรูคซี่” จะถูกเชิญออกจากการแข่งขันรายการนั้น

ความบาดหมางของ 2 คนนี้เริ่มขึ้นในปี 2019 เมื่อเคปค่าให้สัมภาษณ์โจมตีนักกอล์ฟที่เล่นช้า ซึ่งทุกคนเข้าใจตรงกันว่าเล็งเป้าไปที่ดีแชมโบ แม้ว่าเคปค่าจะบอกว่า เขาหมายถึงนักกอล์ฟทุกคนที่เล่นช้า

ในปีเดียวกัน คำวิจารณ์ของเคปค่าดูมีเหตุผลมากขึ้น เมื่อดีแชมโบใช้เวลานานมากในการพัตต์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในตำนานแห่งการเล่นช้า

ในปี 2020 เคปค่าเป็นหนึ่งในนายแบบของนิตยสารอีเอสพีเอ็น ฉบับ “เรือนร่าง” ซึ่งตีพิมพ์ภาพเปลือยแต่ไม่โป๊ของนักกีฬาที่มีเรือนร่างสวยงาม หรือสมส่วน

ดีแชมโบซึ่งเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีรูปร่างบึก (ตอนนั้นยังไม่บึกมาก) บอกว่า เคปค่าไม่มีกล้ามท้อง (แบบซิกซ์แพ็ก 6 ลูก) แต่ดีแชมโบมี

เคปค่าสวนกลับโดยโพสต์รูปถ้วยรางวัล 4 ใบ ที่เขาได้จากการคว้าแชมป์เมเจอร์ และบอกว่า “ผมอาจจะไม่มีกล้ามท้อง แต่ขาดอีกสองก็จะครบหก” (ในขณะที่ดีแชมโบได้ 1 เมเจอร์)

ต่อมา ดีแชมโบบอกแคดดี้ของเคปค่าว่า ไปบอกเคปค่าให้มาคุยกันตัวต่อตัวดีกว่า แล้วทั้งคู่ก็คุยกัน และดูเหมือนว่าเรื่องจะจบ

แต่มันจบแค่ตรงนั้น เพราะวันดีคืนดีทั้งคู่ก็เอาอีก

หลังจากจบการแข่งขันรายการหนึ่ง ขณะที่เคปค่ากำลังให้สัมภาษณ์ ดีแชมโบเดินผ่านและพูดอะไรบางอย่างกับแคดดี้ของเขา ทำให้เคปค่ามองด้วยหางตา

คนหนึ่งที่อาจจะปวดหัวมากกับความบาดหมางของ 2 คนนี้ คือ สตีฟ สตริคเกอร์ หัวหน้าทีมไรเดอร์ คัพของสหรัฐ ซึ่งจะนำทีมสู้กับยุโรปในปลายเดือนนี้ เคปค่ากับดีแชมโบติดทีมโดยอัตโนมัติตามผลงาน

การกินเกาเหลาของ 2 คนนี้อาจทำลายบรรยากาศในทีม และสตริคเกอร์คงไม่จัดให้ 2 คนนี้เล่นคู่กัน

มองในอีกแง่หนึ่ง การไม่กินเส้นกันของ 2 คนนี้อาจช่วยเพิ่มสีสันให้ไรเดอร์ คัพ