‘เอเชียน ทัวร์’ คืนชีพ

ขึ้นแท่นปักที
พิศณุ นิลกลัด
FB : @Pitsanuofficial

 

ในขณะที่แฟนกอล์ฟคิดว่า “เอเชียน ทัวร์” ม้วนเสื่อไปแล้วเพราะไม่มีการแข่งขันมานานแล้ว เอเชียน ทัวร์ก็ประกาศกลับมาด้วยการแข่งขัน 4 รายการ เพื่อปิดฉากฤดูกาล 2020-21

เอเชียน ทัวร์จะจัดการแข่งขัน 2 รายการที่ภูเก็ตในปลายเดือนนี้และต้นเดือนหน้า เริ่มจากบลูแคนยอน แชมเปี้ยนชิพ ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน แล้วต่อด้วยลากูน่า ภูเก็ต แชมเปี้ยนชิพ ทั้ง 2 รายการมีเงินรางวัลรวมรายการละ 1 ล้านดอลลาร์

หลังจากหยุดพักช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ เอเชียน ทัวร์จะจัดอีก 2 รายการที่สิงคโปร์ใน 2 สัปดาห์ติดต่อกันเพื่อจบฤดูกาล 2020-21

เอเชียน ทัวร์ไม่มีการแข่งขันประมาณปีครึ่ง ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว เพราะโควิด-19 หลังจากแข่งไปได้ 4 รายการในปีนั้น

โช มิน ตัน หัวหน้าฝ่ายบริหารของเอเชียน ทัวร์บอกว่า เอเชียน ทัวร์กำลังจะกลับมาหลังจากช่วงที่ยากลำบาก 18 เดือน

เขาบอกว่า เอเชียน ทัวร์ต้องการให้มีผู้ทำเงินรางวัลสูงสุดประจำฤดูกาล และมั่นใจว่าเอเชียน ทัวร์จะสามารถแข่งจนจบฤดูกาลได้แม้ว่าจะยังคงมีความท้าทายมากมายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

เพื่อให้จบฤดูกาลอย่างน่าตื่นเต้น เอเชียน ทัวร์จึงประกาศว่านักกอล์ฟที่จบใน 30 อันดับแรกของเงินรางวัลรวมจะได้สิทธิ์เล่นในรายการ “ซาอุดิ อินเตอร์เนชั่นนอล” ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะเป็นรายการแรกของเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2022 มีเงินรางวัลรวม 5 ล้านดอลลาร์

นักกอล์ฟที่จะเข้าร่วมแข่งขันทั้ง 4 รายการต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และต้องอยู่ใน “บับเบิล” ในระหว่างการแข่งขันภายใต้มาตรการการป้องกันโควิด-19 ที่เคร่งครัด

เอเชียน ทัวร์จัดการแข่งขันในภูเก็ตครั้งหลังสุดในปี 2019 ด้วยรายการลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น ที่ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งเป็นรายการในเอเชียน ดีเวลอปเมนต์ ทัวร์ หรือทัวร์รองของเอเชียน ทัวร์

ขณะเดียวกัน บลู แคนยอน คันทรี คลับ เคยจัดรายการของเอเชียน ทัวร์มาแล้ว และเคยต้อนรับนักกอล์ฟระดับโลกอย่างไทเกอร์ วูดส์, เกร็ก นอร์แมน และเออร์นี่ เอลส์

แจ๊ส (อติวิชญ์) เจนวัฒนานนท์ เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันที่ภูเก็ตทั้ง 2 รายการ

แจ๊สจะลุ้นเป็นนักกอล์ฟคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ครองตำแหน่งผู้ทำเงินรางวัลสูงสุดของเอเชียน ทัวร์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ตอนนี้เขาอยู่ที่ 5 ในอันดับเงินรางวัลฤดูกาล 2020-21

ขณะเดียวกัน นอร์แมนประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนต์ ซึ่งเขาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะสนับสนุนการแข่งขันในเอเชียน ทัวร์ ปีละ 10 รายการ เป็นเวลา 10 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 200 ล้านดอลลาร์

เขาบอกว่าเอเชียน ทัวร์เปรียบเหมือนเสือหลับ และนี่เป็นโอกาสดีที่จะสานต่อการพัฒนากอล์ฟในเอเชีย

บริษัทนี้ได้รับการสนับสนุนจากพับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (พีไอเอฟ) ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของลิฟฯ

พีไอเอฟคือกลุ่มที่ซื้อนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้

เมื่อเงินไม่ใช่ปัญหา เอเชียน ทัวร์คงจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้โดยไม่ติดขัด